กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--กทม.
สำนักสวัสดิการสังคม ได้จัดโครงการ “สนส.สัญจร” ขึ้น เพื่อมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเรื่องเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ การตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟฟ้า การเพิ่มพื้นที่สีเขียว คือ การจัดทำสวนถนน สวนชานบ้าน การดำเนินการจัดสร้างลานกีฬาประชาชนให้แก่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปแบบและเป็นไปในทางเดียวกัน
นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวว่า การจัดประชุม “สนส.สัญจร” เป็นการถ่ายทอดแนวนโยบายการปฏิบัติในเรื่องสวน ต้นไม้ และลานกีฬาจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้แก่สำนักงานเขตเพื่อทราบและปฏิบัติ โดยรูปแบบการจัดประชุมได้กำหนดกลุ่มเขตในพื้นที่ใกล้เคียงกัน 5-10 เขต เชิญมาร่วมประชุม ณ สำนักงานเขตที่เป็นจุดกลางของกลุ่มเขตที่กำหนด ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการจัดประชุมไปแล้ว 20 เขต คือ ดุสิต บางซื่อ ป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร สัมพันธวงศ์ พญาไท ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก สาทร ดินแดง ห้วยขวาง วังทองหลาง วัฒนา คลองเตย จตุจักร พระโขนง บางนา บางคอแหลม ยานนาวา ส่วนสำนักงานเขตที่เหลือจะดำเนินการจัดประชุมต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวต่อว่า ในเรื่องเกี่ยวกับสวน ต้นไม้ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติไว้ คือ 1. การปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ได้ 1,000,000 ต้น และเพิ่มพื้นที่สีเขียว จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน 5,000 ไร่ ให้ได้ครบ 9,000 ไร่ ในปี 2547 ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีต้นไม้ใหญ่ประมาณ 560,000 ต้น ฉะนั้น จะต้องปลูกให้ได้อย่างน้อยปีละ ไม่ต่ำกว่า 120,000 ต้น สำหรับช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการปลูกคือ ระหว่างเดือน พ.ค. — ต.ค. เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน จะทำให้ต้นไม้ตั้งตัวได้เร็ว 2. การทำสวนถนนในพื้นที่เขตชั้นในที่หาพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ยาก และมีทางเท้าที่กว้างเกินกว่า 3 เมตรขึ้นไปให้พัฒนาทางเท้าเป็นสวนถนน โดยการปลูกต้นไม้ 2 ข้างทางเว้นที่ตรงกลางไว้เป็นทางเดิน ซึ่งมีต้นแบบสวนถนนอยู่ 2 แห่ง คือ ที่ถนนวิทยุ หน้าสถานทูตอังกฤษ และถนนอังรีดูนังส์ 3. การจัดทำสวนชานบ้าน หรือ Mini Park โดยให้แต่ละเขตหาพื้นที่ 1-2 ไร่ จัดสร้างสวนชานบ้านอย่างน้อยเขตละ 2 แห่ง โดยพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนและมีสถานที่ออกกำลังกายตามสภาพของพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีต้นแบบของสวนชานบ้านพื้นที่ 2 ไร่ อยู่ที่หมู่บ้านพลับพลา เขตวังทองหลาง 4. การปลูกต้นไม้ที่ว่างริมทางเพื่อความสวยงาม เช่น ปลูกดาวกระจายสามารถทำได้ตลอดปี ต้นไม้ที่แคระแกรนหรือต้นไม้ที่ตายควรขุดล้อมออก และปลูกต้นใหม่ทดแทน การเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น พื้นที่ใต้ทางด่วน ใต้สะพานควรใช้พันธุ์ไม้ที่อยู่ในร่มได้ 5. การตัดแต่งไม้ยืนต้นตามแนวสายไฟฟ้า ควรทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นไปตามรูปแบบของชนิดสายไฟที่สำนักสวัสดิการสังคม กำหนดแนวทางไว้ 5 รูปแบบ ซึ่งสำนักสวัสดิการสังคมได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงว่า ต่อไปการตัดแต่งต้นไม้จะเป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร และสำนักสวัสดิการสังคมจะจัดการอบรมการตัดแต่งต้นไม้แก่สำนักงานเขต 50 เขต ๆ ละ 10 คน เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวต่อว่า ในด้านลานกีฬา เป้าหมายอยู่ที่ประชาชนเป็นหลัก เพราะประชาชนเป็นผู้ใช้ ฉะนั้นจะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด สำนักสวัสดิการสังคม และสำนักงานเขตพื้นที่ได้ปรับองค์กรการบริหารลานกีฬา โดยเพิ่มบทบาทของคณะกรรมการบริหารลานกีฬาให้มีมากขึ้น และลดบทบาทของสำนักสวัสดิการสังคม และสำนักงานเขต ให้ทำหน้าที่ด้านการส่งเสริมและประสานงาน รวมทั้งทำหน้าที่ด้านวิชาการต่าง ๆ แทน เพื่อให้เป็น “ลานกีฬาประชาชน” อย่างแท้จริง และนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อีกเรื่องหนึ่งคือ การสร้างสนาม Futsal (ฟุตบอล 5 คน) ให้สำนักงานเขตหาพื้นที่จัดสร้างเขตละ 1 สนาม ก่อนในระยะแรกและดูความต้องการของประชาชน ถ้ามีความต้องการเพิ่มขึ้นก็สามารถดำเนินการได้อีก สำหรับเรื่องการเต้นแอโรบิคของประชาชน อยากให้แต่ละกลุ่มคัดเลือกตัวแทนที่สามารถจะเป็นผู้นำเต้นได้ เพื่อมาฝึกอบรมการเต้นที่ถูกต้องจากสำนักสวัสดิการสังคมเพิ่มเติม แล้วกลับไปเป็นผู้นำเต้นของกลุ่มแทนการจ้างครูมาสอนเต้นได้เป็นอย่างดี
ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า ในการจัดประชุม “สนส.สัญจร” ครั้งนี้นอกจากเป็นการมอบนโยบายต่าง ๆ ตามข้างต้นแล้ว ยังได้รับรู้ปัญหาการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ของแต่ละเขต สามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยวิธีที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างสูงสุดอีกด้วย--จบ--
-นศ-