กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ที่บริเวณชั้น ๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม) เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน "รณรงค์พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับรู้เนื้อหาสาระของพระราชบัญญัติฯ และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนทั่วไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ทุกเพศได้มีโอกาสได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และได้รับการคุ้มครองจากการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ โดยเล็งเห็นความสำคัญและผลักดันกฎหมายต่างๆ ในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้า ของสังคมไทยที่มีมาตรการคุ้มครองและป้องกันเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือผู้แสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิด โดยมีบทบัญญัติที่เป็นข้อห้ามทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือบุคคลใด มิให้กระทำการในลักษณะที่มีการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ พระราชบัญญัตินี้เป็นเสมือนกฎหมายกลางที่เป็นทางเลือกรองรับผู้ถูกกระทำให้สามารถใช้สิทธิเพื่อให้ได้รับการพิทักษ์ คุ้มครอง และป้องกันสิทธิของตนเองในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยสาระสำคัญของกฎหมาย คือ ห้ามแบ่งแยก ห้ามกีดกัน ห้ามจำกัดสิทธิประโยชน์ ห้ามเลือกปฏิบัติ เพราะเหตุแห่งเพศ และหากถูกเลือกปฏิบัติ สามารถร้องมายังคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศให้วินิจฉัยได้ ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจริง สามารถสั่งลงโทษและสั่งให้ชดเชยเยียวยาได้ โดยกฎหมายยังกำหนดให้มีกองทุนเพื่อนำเงินมาช่วยดูแลผู้เสียหาย
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนพระราชบัญญัติฯ ในการนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการจัดตั้งกลไกขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่หน่วยงานต่างๆ เห็นความสำคัญ ของพระราชบัญญัติฯ และได้ให้ความร่วมมือเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ รวมทั้งระมัดระวังที่จะกระทำ และไม่กระทำการอันใดที่จะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการรณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับรู้เนื้อหาสาระของพระราชบัญญัติฯ และสร้างความรู้ ความเข้าใจ แก่ประชาชน จึงได้กำหนดจัดงาน "รณรงค์พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘" ขึ้น ในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐ – ๒๐.๓๐ น. ณ ลานกิจกรรมสยามสแควร์วัน ทางเชื่อมบีทีเอส ชั้น ๓ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน กรุงเทพฯ โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การแสดงมินิคอนเสิร์ต การแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ การเสวนาเรื่อง "พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.๒๕๕๘ ใครได้ใครเสีย?"และการเดินรณรงค์เผยแพร่พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้น