กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเมืองไทยประกันชีวิตได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างตรงใจและตรงจุดตามนโยบาย "ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" หรือ Customer Centricอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ส่ง"แบบประกันชีวิตควบการลงทุน" หรือ Unit-Linked เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาทางเลือกในการวางแผนการเงินผ่านนวัตกรรมการประกันชีวิตและการลงทุนในรูปแบบใหม่ที่ให้ผลตอบแทน และความคุ้มครองที่คุ้มค่าโดยเฉพาะในช่วงทิศทางดอกเบี้ยขาลง ณ ปัจจุบัน
นายสาระ กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิตได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่ลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เรียกว่า ประกันชีวิตควบการลงทุน "เมืองไทยยูนิตลิงค์ 1" (Muangthai Unit-Linked 1) ซึ่งมีจุดเด่นที่รวม 2ผลิตภัณฑ์การเงินไว้ด้วยกัน คือ ประกันชีวิต และกองทุนรวม ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการลงทุนระยะยาว และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่ากรมธรรม์แบบสามัญทั่วไป
แบบประกันนี้ตอบโจทย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงระดับต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละคน โดยมีกองทุน ที่ถูกคัดสรรมาเพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกครอบคลุมทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ อีกทั้งในระหว่างสัญญา ผู้เอาประกันสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนเพื่อให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องการตามช่วงเวลาที่เหมาะสมได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เมืองไทยยูนิตลิงค์ 1 ยังเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ผู้เอาประกัน โดย 1.)ปรับเพิ่ม-ลดจำนวนเงินเอาประกันภัยได้ 2.) ถอนเงินลงทุนบางส่วนออกมาได้ และ 3.) เพิ่มเงินลงทุนตามต้องการ ซึ่งความพิเศษเหล่านี้ ช่วยให้แบบประกันนี้สามารถตอบโจทย์แผนการเงิน การลงทุน และความคุ้มครองได้อย่างหลากหลายในกรมธรรม์เพียงฉบับเดียว ตั้งแต่ วัยเริ่มต้นการลงทุนที่อาจจะยอมรับความเสี่ยงได้สูง เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี วัยสร้างครอบครัวที่เลือกเพิ่มน้ำหนักให้กับความคุ้มครองชีวิตเพื่อเป็นการเพิ่มหลักประกันให้แก่ครอบครัว ไปจนถึงการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณที่อาจจะมุ่งเน้นการลงทุนที่ไม่เสี่ยงมากนัก เป็นต้น
ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการชำระเบี้ยได้ ทั้งแบบชำระเบี้ยครั้งเดียว หรือ Single Premium และแบบชำระเบี้ยรายงวดหรือ Regular Premium ที่เลือกชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน โดยอายุรับประกันตั้งแต่ 1 เดือน – 70 ปี มีระยะเวลาคุ้มครองตลอดชีวิต หรือจนถึงอายุ 99 ปี
สำหรับลูกค้าที่เลือกซื้อ เมืองไทยยูนิตลิงค์ 1 แบบชำระเบี้ยรายงวดนั้น นอกจากจะสามารถเลือกความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 80 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักแล้ว(ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกันภัย)ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมต่างๆ ได้แก่ความคุ้มครองโรคร้ายแรง[สัญญาเพิ่มเติมซีไอ 31] การวางแผนสุขภาพหากเกิดการเจ็บป่วย[สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย] ชดเชยรายได้เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล[สัญญาเพิ่มเติมเฮลแคร์พลัส (ค่าชดเชยรายวัน)]และ ความคุ้มครองกรณีตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร[สัญญาเพิ่มเติมทีพีดี]
"ปีนี้เราพร้อมที่จะรุก และผลักดันผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์ให้เป็นที่รู้จักและเติบโตในตลาดซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กลุ่มลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต และยังได้ประโยชน์จากการวางแผนทางการเงินระยะยาวแบบใหม่ เราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเติบโตในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้เรื่องการลงทุนหรือการวางแผนทางการเงินและขยายไปถึงลูกค้าทั่วไปที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ทั้งความคุ้มครองและผลตอบแทนที่คุ้มค่า อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เหมาะกับทุกระดับความเสี่ยงของแต่ละไลฟ์สไตล์การลงทุนโดยเมืองไทยประกันชีวิตได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์ผ่านทีมตัวแทนฝ่ายขายที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์"
เมืองไทยประกันชีวิตได้เตรียมความพร้อมสำหรับตัวแทนฝ่ายขายโดยจะต้องผ่านการอบรมและสอบผ่านหลักสูตรที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด ได้รับการอบรมและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ขายกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)รวมถึงผ่านการอบรมหลักสูตรการขายอย่างเข้มข้นจากเมืองไทย อะคาเดมี ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพตัวแทน ฝ่ายขายที่แข็งแกร่ง พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ
"โดยในปี 2559 นี้คาดว่า เมืองไทยยูนิตลิงค์ 1 จะได้รับผลตอบรับที่ดี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลาง ขึ้นไปที่มองหาช่องการลงทุนแบบใหม่ พร้อมความคุ้มครองที่คุ้มค่าเพื่อตอบโจทย์ทุกการวางแผนความมั่นคงในอนาคต โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้บริโภคกำลังมองหาช่องทางการออมเงิน ซึ่งประกันชีวิตนับเป็นหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีผลประโยชน์ด้านความคุ้มครองชีวิตให้แก่ผู้เอาประกัน อันเป็นจุดเด่นที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากการออมหรือลงทุนในประเภทอื่นๆขณะเดียวกันยังสามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพโรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นได้อีกด้วย" นายสาระ กล่าว
นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการทางเลือกการวางแผนการเงิน พร้อมกับการรับรองผลตอบแทนขั้นต่ำให้เพื่อความอุ่นใจด้วยนั้น เมืองไทยประกันชีวิตยังมี "เมืองไทย ยูนิเวอร์แซลไลฟ์ 1" ที่ชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด ให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี และ "เมืองไทย ยูแอล 1" ที่ชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวคุ้มครองนาน 10 ปี เป็นทางเลือกเพิ่มเติม โดยจะตอบโจทย์ความต้องการผู้ที่กำลังมองหาประกันชีวิตรูปแบบใหม่ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตควบคู่กับการลงทุน ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของผู้เอาประกันแต่ละคนในแต่ละช่วงวัย โดย "เมืองไทย ยูแอล 1" เปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนตามรูปแบบการลงทุนที่ลูกค้าเลือกแบ่งเป็น 3 รูปแบบแผนการลงทุนให้เลือกสรรตามสไตล์ของลูกค้าประกอบด้วย1.)เมืองไทยยูแอล 1 สินทวีคูณ ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลักพร้อมเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญ ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20 2.)เมืองไทยยูแอล 1 สินเพิ่มทรัพย์ เน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก โดยเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 และ 3.)เมืองไทยยูแอล 1 สินยั่งยืน เน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก และลงทุนในเงินฝากในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20 โดยไม่มีการลงทุนในตราสารทุน
หมายเหตุ –เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
–การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
–การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน