กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--คอร์ แอนด์ พีคฯ
โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา โดยกลุ่มการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม "Young Thinking Innovator Camp" ต่อยอดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ แผนกมัธยม โดยประกอบด้วยความรู้หลัก 4 ด้าน ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์ science (S) ด้านเทคโนโลยี technology (T) ด้านวิศวกรรม engineering (E) และด้านคณิตศาสตร์mathematics (M) ซึ่งความรู้ทั้ง 4 ด้านนี้เรียกว่า "STEM" ซึ่งกิจกรรมนี้มีจุดประสงค์ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ลงมือปฏิบัติทำการทดลอง สามารถเรียนรู้การเผชิญหน้ากับปัญหาและแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ไปพร้อมกับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
นางสุภาวดี โชติวรรณพร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการประถมและมัธยมกล่าวว่า กิจกรรม "Young Thinking Innovator Camp" นี้ จัดขึ้นโดยกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อต้องการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถประดิษฐ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย การแก้ปัญหา การตั้งสมมติฐานข้อสังเกต การแก้ไขลงมือทำ การทดลองพัฒนา และการทำซ้ำ เพื่อนำไปวิเคราะห์หาเหตุผลได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่จะนำเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์ไปแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน ความสามัคคี ความร่วมมือ และส่งเสริมศักยภาพรวมทั้งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้แก่เด็กนักเรียน
ในส่วนของกิจกรรม Young Thinking Innovator Camp มีนักเรียนแผนกมัธยมเข้าร่วมจำนวน 80 คน โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ เริ่มจากช่วงปฐมบท ซึ่งเป็นช่วงของปัญหาทางเทคโนโลยี นักเรียนจะได้สัมผัสกับชุดสื่อ Construction (การคิดค้น) เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกต่อพัดลมตามแผ่นใบงาน ได้เรียนรู้พลังงานขับเคลื่อน ได้ควบคุมมอเตอร์ผ่านไอคอนสัญลักษณ์ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการฝึกปฏิบัตกิจกรรมนี้ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงกระบวนการทางเทคโนโลยีต่างๆ ในเรื่องของการแก้ปัญหา การสังเกต และการลงมือทำ อีกทั้งยังทำให้ทราบถึงกระบวนการผลิตพลังงานต่างๆ อีกด้วย
ต่อมาในช่วงที่ 2 หลังจากแก้ปัญหาและเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็จะเป็นช่วงวัดแววนักประดิษฐ์ โดยจะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างรถที่สามารถปล่อยให้ล้อกลิ้งจากเนินสูงลงมาหยุดทับเส้นได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งการออกแบบและสร้างตัวรถนอกจากใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ตัวรถเคลื่อนที่และพร้อมที่จะหยุดในระยะทางที่กำหนดแล้ว ยังต้องใช้พลังงานศักย์โน้มถ่วงเข้ามาช่วยอีกด้วย โดยในกิจกรรมนี้ต้องการส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบการประดิษฐ์นั่นเอง
สำหรับช่วงสุดท้าย รถจอมพลัง คือช่วงที่ต้องการให้นักเรียนนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เรียน มาออกแบบและประดิษฐ์รถที่สามารถพุ่งชนรถคู่ต่อสู้ให้ตกขอบสนามได้ โดยทางโรงเรียนได้จัดทำการแข่งขัน เพื่อสร้างบรรยากาศให้นักเรียน ได้เรียนรู้และสนุกคิดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งภายหลังจากจบกิจกรรมนอกจากนักเรียนจะได้รับความสนุกสนานแล้วนักเรียนยังได้รับความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้ฝึกการทำงานเป็นทีม และเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยการทำกิจกรรรมนี้ยังสามารถนำประสบการณ์ที่ได้ไปต่อยอดความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของตนเองในอนาคตได้อีกด้วย