MovieSing Street

ข่าวบันเทิง Tuesday May 31, 2016 09:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--โมโนกรุ๊ป ชื่อเรื่อง Sing Street ประเภท Drama / Comedy / Music กำหนดฉาย 30 มิถุนายน บริษัทจัดจำหน่าย โมโนฟิล์ม ควบคุมงานสร้าง แอนโทนี่ เบรกแมน (Begin Again, Eternal Sunshine of the Spotless Mind) กำกับ / เขียนบท จอห์น คาร์นีย์ (Begin Again, Once) แสดงนำ เฟอร์เดีย วอลช์-พีลโล แจ็ค เรย์นอร์ (Transformers: Age of Extinction, Delivery Man) เอเดน กิลเลน (Maze Runner: The Scorch Trials, Game of Thrones) เรื่องย่อ เรื่องราวของเด็กหนุ่มจากเมืองดับบลิน ที่ได้พบกับหญิงสาวสุดสวย และเพื่อพิชิตใจสาวคนนี้เขาจึงได้เริ่มตั้งวงดนตรี แต่งเพลง ถ่ายมิวสิควีดีโอ เพื่อถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกที่เขามีให้ต่อเธอ เกร็ดภาพยนตร์ - ผลงานลำดับถัดไปของ จอห์น คาร์นีย์ ที่สร้างปรากฏการณ์ จากภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Begin Again และ Once มาแล้ว กว่าจะมาเป็นหนังเรื่องนี้ "ผมต้องการจะทำหนังอะไรสักอย่างที่มันสะท้อนตัวตนของผม ผมไม่ได้อยากทำแค่ภาพยนตร์เพลงแต่อยากให้มันมีอะไรมากกว่านั้น" จอห์น คาร์นีย์ ผู้กำกับภาพยนตร์กล่าว จุดเริ่มต้นของ Sing Street นั้นย้อนกลับไปหลายปีมันคือชีวิตวัยรุ่นของผู้กำกับในช่วงปี 1980 ที่เมือง ดับลิน จอห์น คาร์นีย์ เขาได้มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงของไอร์แลนด์ และโดนย้ายโรงเรียนจากโรงเรียนเอกชน ไปอยู่โรงเรียนรัฐบาล ซึ่งมันกลายเป็นไอเดียที่เขาอยากจะทำภาพยนตร์เพลง "จากช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขา" การได้ร่วมงานกับ แอนโทนี เบรกแมน โปรดิวเซอร์ จากเรื่อง Begin Again ที่นิวยอร์ก พวกเขาได้พูดคุยกันเกี่ยวกับไอเดียในการจะทำหนังที่เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตในช่วงที่เขาเติบโตที่เมือง ดับลิน ระหว่างที่พวกเขากำลังจิบกาแฟกันอยู่ มันคือช่วงที่เขาอยู่ในห้องตัดต่อ แล้ว จอห์น ก็เล่าให้ แอนโทนีฟัง ถึงไอเดีย Sing Street "จุดเริ่มต้นของหนังย้อนไปประมาณ 20-30 ปี ด้วยความที่องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้มาจากประสบการณ์ในวัยรุ่นของ จอห์น" แอนโทนี กล่าว "เขามาจากโรงเรียนเอกชน และต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลอยู่เป็นปี และต้องผ่านเรื่องราวมากมายซึ่งคล้ายคลึงกับในตัวละครของหนังเรื่องนี้ที่ต้องเผชิญ จากที่เคยอยู่ในโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีกลายมาเป็นสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างยากในการใช้ชีวิตและการปรับตัว" "เขาบอกกับผมระหว่างที่เรากำลังจิบกาแฟ ซึ่งในความเป็นจริง มันค่อนข้างใกล้เคียงกับในหนัง มันคือเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งที่พ่อของเขาตกงาน และสภาพการเงินค่อนข้างจะลำบากขึ้น เขาถูกย้ายจากโรงเรียนเอกชนไปอยู่โรงเรียนรัฐบาลซึ่งเป็นที่ที่เขาโดนรังแกและถูกเอาเปรียบ เขาเลยคิดที่จะตั้งวงดนตรีขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้ตัวเขามีจุดยืนในโรงเรียนและเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจจากหญิงสาวที่ตัวของเขาเองไม่สามารถจะดึงดูดความสนใจได้" ซึ่งเรื่องก็จะดำเนินไปทั้งในเรื่องขององค์ประกอบที่มีความโรแมนติกและโลกของเสียงดนตรีในยุค 1980 ของอังกฤษ Sing Street จะนำเสนอแง่มุมอันใสซื่อและมุมมองการใช้ชีวิตของวัยรุ่นในยุคนั้น สำหรับโปรดิวเซอร์เอง แอนโทนี มีไอเดียที่สดใหม่ และความโรแมนติกแบบใสๆ ระหว่างนักแสดงนำทั้งสองคน มันคือความสอดคล้องลงตัวที่ตัวของเขาเองไม่ได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆมานานมากแล้ว "ความสัมพันธ์ระหว่าง คอเนอร์ และ ราฟินา มันคือความน่าสนใจเพราะมันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากและก็มีอายุมากกว่า มีความลึกลับซับซ้อน น่าค้นหา มีชีวิตเป็นของตัวเอง ในขณะที่เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่กำลังพยายามตั้งวงดนตรี ซึ่งเมื่อเขาพยายามเข้าหาเธอ เราก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังพยายามเล่นของสูงอยู่" นอกจากเรื่องโรแมนติกแล้ว จอห์นเองก็ยังโฟกัสไปที่เรื่องความซับซ้อนของชีวิตคู่ที่ต้องแตกหักกัน ในช่วงนั้นสำหรับประเทศไอร์แลนด์ การหย่าร้างยังไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งเมื่อความสัมพันธ์ของพ่อแม่ของเขาได้เปลี่ยนไป ผลกระทบที่มีต่อเด็กจึงเกิดขึ้น แอนโทนี กล่าวว่า "มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากใจมากในขณะนั้น พ่อและแม่ คอเนอร์ แต่งงานกันเร็วเกินไป ด้วยเหตุและผลที่ผิดๆ และพวกเขาก็ไม่สามารถจะแยกกันอยู่ได้ เพราะในช่วงเวลานั้นมันยากที่จะหย่าร้างกัน" "พวกเขาถูกล็อคไว้ด้วยกันด้วยคำว่าคู่สมรส แต่พวกเขาไม่มีความสุขที่จะอยู่ด้วยกันอีกต่อไป ซึ่งด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยโอเคในครอบครัวและส่งผลต่อลูกๆของเขา และส่งผลต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง" สำหรับผู้กำกับ จอห์น คาร์นีย์ นั้น หนังเรื่องนี้ยังนำเสนอความแตกต่างระหว่าง ไอร์แลนด์ กับ อังกฤษ, ดับลิน กับ ลอนดอน และความปลอดภัยระหว่างโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนรัฐบาล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับจอห์น ก็คือความแตกต่างระหว่าง เด็กหนุ่มผู้ซึ่งคิดว่าปัญหาต่างๆที่เขามีนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อย "มันเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายระหว่างการย้ายเข้าไปอยู่ในสังคมที่แตกต่างออกไปจากที่เคยมี จากที่เคยมีเงินใช้สบายๆ ต้องมาลำบาก จากที่เคยใช้ชีวิตที่หรูหรา มองคนจากเปลือกนอกก็ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตใหม่" จากการที่ได้กำกับภาพยนตร์เพลงและคว้ารางวัลจากเวทีออสการ์ในเรื่อง Once และ Begin Again ทำให้ จอห์น รู้สึกว่านี่ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำภาพยนตร์เพลงที่มีความเป็นตัวเองมากกว่าเดิม "บางอย่างที่เกี่ยวกับตัวตนของเขาจริงๆ" "ผมไม่ได้อยากทำแค่ภาพยนตร์เพลง แต่อยากให้มันมีอะไรมากกว่านั้น ผมอยากลองทำและค้นหาอะไรบางอย่างในชีวิตที่ตัวเองสนใจที่อยากจะทำและอยากจะเล่าออกมาจริงๆ ผมอยากที่จะให้ภาพยนตร์ของผมเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมและเป็นตัวตนของผมมากที่สุด"
แท็ก transformers   Movie:   ฟิล์ม   โทน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ