กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--ฟีล กู๊ด ทูเก๊ทเธอร์
"เจ พี กรุ๊ป" เล็งระดมทุนเข้าตลาดเอ็มเอไอปีหน้า หลังเปิดเกมรุกใหญ่ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน หลายประเภท พร้อมสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวทาวเวอร์โฆษณาขนาดใหญ่ในสนามบินภูเก็ต และเตรียมสร้างสื่อโฆษณา LED ยาวสุดบริเวณริมแม่น้ำ 300 เมตรที่ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" ด้าน มิสเตอร์พันล้าน ระบุ พร้อมดันรายได้โตก้าวกระโดด
นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ พี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและให้บริการสื่อโฆษณา เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ล่าสุดได้คัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินแล้วรอเซ็นสัญญาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ยังได้ว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อม
ขั้นตอนต่อไปบริษัทจะดำเนินการจัดโครงสร้างการเงิน และโครงสร้างธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ยื่นขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. ต่อไป คาดว่าจะสามารถเข้า ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในปีหน้า
ทั้งนี้ บมจ.เจพี กรุ๊ป มุ่งเน้นการประกอบธุรกิจให้บริการและผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย หลากหลายประเภท โดยล่าสุดได้ลงทุนในธุรกิจสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ในสนามบิน เรียกว่า Social Life Tower เป็นทาวเวอร์โฆษณา 4 ด้านขนาดใหญ่ตอบโจทย์ผู้ซื้อโฆษณา เนื่องจาก สามารถดึงดูดความสนใจ และ ตอบโต้ผู้บริโภคในสนามบินได้ รวมไปถึงยังรองรับการใช้งาน โซเชียล มีเดีย
" Social Life Tower จะตั้งใน สนามบินภูเก็ต เป็นที่แรก ก่อนที่จะขยายไปยังสนามบินอื่นๆต่อไป และเราเตรียมที่จะให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา บาหลี ด้วย" นายจักรพันธ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาบริเวณ "สถานีรถไฟ" ทั้งหมด จำนวนถึง 150 สถานีทั่วประเทศ
นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาบริเวณห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ โดยเฉพาะ "ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค" ปากคลองตลาด ซึ่งเป็นสื่อโฆษณา LED Billboard ริมแม่น้ำขนาดยาวสุดถึง 300 เมตร รวมไปถึงสื่อโฆษณาในห้างอื่น เช่น สยามดิสคัฟเวอรี่ เกษรพลาซ่า ตลอดจน สื่อโฆษณาเคลื่อนที่บนรถสามล้อ สื่อโฆษณาบริเวณสนามฟุตบอล ป้าย LED Billboard ในหลายสถานที่
นายจักรพันธ์ ระบุว่า ภาพรวมของธุรกิจสื่อนอกบ้านมีการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากผู้บริโภคใช้ชีวิตกับการเดินทางมากกว่าอาศัยในบ้าน ประกอบกับเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ LED มีส่วนช่วยทำให้ สื่อนอกบ้านโดดเด่น โดยบริษัทพร้อมขยายงานอย่างก้าวกระโดด
มีแผนเพิ่มพื้นที่โฆษณา อาทิ LED Billboard 30 ป้ายต่อปี และเตรียมเพิ่มสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ๆ หลายพื้นที่ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมาก ตั้งเป้าปี 2559 มีรายได้ 150 ล้านบาท จาก 2558 ที่มีรายได้ 90 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะมีรายได้แตะ 300 ล้านบาท