กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
โรคออฟฟิศซินโดรม ยังคงเป็นกระแสสำหรับคนยุคทำงานในปัจจุบัน ที่แก้ไขกันไม่ได้สักที ไม่ว่าจะมีวิธีการรักษาให้ทางเลือกหลากหลาย แต่การรักษาก็ยังไม่หายขาด เพราะนอกจากจะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันแล้ว สิ่งหนึ่งที่กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้ง่ายนั่นคือ การนั่งเล่นสมาร์ทโฟน จนบางครั้งลืมกินข้าวกินน้ำ หรือแม้แต่จะลุกขึ้นเดินเพื่อผ่อนคลายก็ยังไม่มีเวลา จึงส่งผลให้สุขภาพร่างกายปวดเมื่อย สมองอ่อนล้า ไม่แปลกที่คนในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานหรือไม่ทำงาน จะเริ่มเผชิญกับปัญหาออฟฟิศซินโดรมกันเป็นจำนวนมาก
อาจารย์หยาง เผยเซิน ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดอาจารย์ หยาง กล่าวว่า ในการรักษาโรค "ออฟฟิศซินโดรม" นั้น "กัวซา" ถือเป็นศาสตร์ทางหนึ่งที่ช่วยรักษาโรคนี้ให้บรรเทาลงได้ ซึ่งตำนานของ "กัวซา" เป็นวิชาแพทย์แผนจีนโบราณที่มีมานานหลายพันปี เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีแพทย์ในการรักษา เมื่อเจ็บป่วยก็รักษากันโดยใช้หลักของธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิถีชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยโบราณ
กัวซา จึงเป็นศาสตร์ที่ใช้อุปกรณ์จากธรรมชาติ มาขูดลงบนผิวหนังตามเส้นลมปราณทั่วร่างกาย เพื่อขับพิษออกจากร่างกาย และเสริมสุขภาพให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งวิธีการนี้สามารถบรรเทาอาการได้ โดยเฉพาะ "โรคออฟฟิศซินโดรม" ที่เกิดจากการทำอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอาการที่ต้องนั่งทำงานตลอดเวลาจนร่างกายขาดการเคลื่อนไหว นั่งหลังค่อม หรือบางครั้งการนั่งทำงานบนเก้าอี้ไม่มีพนักพิง การกดแป้นคีย์บอร์ดไม่มีตัวรองรับข้อมือ การเล่นสมาร์ทโฟนในท่าเดิมเป็นเวลาหลายชั่วโมงข้อมือขึ้นลงซ้ำๆ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ อาทิ ศีรษะ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ โดยเฉพาะการกระดกข้อมือขึ้นลงซ้ำๆ บนคีย์บอร์ด หรือการเล่นสมาร์ทโฟนในท่าเดิมค้างนานๆ จะส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณเส้นเอ็น รวมทั้งเกิดภาวะพังผืดหนา ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือและข้อมือ ส่วนความเครียดสะสมจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ หรือเป็นโรคเครียดได้ อาการที่กล่าวสามารถใช้กัวซาขูดพิษขับออกจากร่างกายและฟื้นฟูขึ้นได้
ศาสตร์ของกัวซาคือการขับพิษออกจากร่างกาย เมื่อทำกัวซาเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เสริมสุขภาพความงามและลดความอ้วนได้อีกด้วย อีกทั้งการกัวซาจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตภายใต้ผิวหนัง ขยายรูขุมขนให้เปิดกว้างทำให้การหมุนเวียนของโลหิตปรุโปร่งร่างกายผลัดเซลล์เก่าสร้างเซลล์ใหม่และขับพิษออกทางต่อมเหงื่อ อวัยวะภายในได้รับการบำรุงเลี้ยงจากโลหิตอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายมีการปรับสมดุลช่วยฟื้นฟูสมรรถนะของระบบภูมิต้านทานโรคให้แข็งแรง อาการที่ใช้วิธีการกัวซาให้ผลดีที่สุดและเห็นผลเร็วที่สุด คือ อาการไม่สบาย เป็นไข้ ไข้หวัด หวัดแดด ตัวร้อน ปวดเมื่อย หรือชาตามร่างกาย ถ้าเราสังเกตตัวเราเอง แล้วพบว่า หน้าซีด ปากแห้ง ตาแดง ตัวร้อน ควรเริ่มทำการกัวซา เพราะพิษเริ่มมีมากในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ที่สามารถทำกัวซาแล้วได้ผล อาทิ การปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ อวัยวะภายในทำงานไม่ปกติ เป็นต้น จุดเด่นของการกัวซา คือการแก้อาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ช่วยบรรเทาอาการปวด ชาบริเวณ คอ ไหล่ หลัง บ่า แขน และข้อมือ อาการมือชา เท้าชา และนิ้วล็อค ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ที่สำคัญประโยชน์ของกัวซายังสามารถช่วยในเรื่องความสวยความงามของผิวหน้าได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรรู้ในการทำการกัวซา อาจารย์หยางแนะนำว่า การกัวซาควรทำไม่เกิน 15 - 30 นาที เพราะถ้าเกินมากกว่านี้จะทำให้เกิดอาการช้ำและเกิดพิษในร่างกาย ซึ่งการกัวซาที่ถูกต้องและแท้จริง จะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่หากทำการกัวซาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เจ็บบริเวณที่ทำ อาจารย์หยางแนะนำว่านั่นไม่ใช่การกัวซาที่ถูกต้องตามหลักแพทย์แผนจีน
กัวซา นอกจากจะรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังสามารถการรักษาสุขภาพผิวหน้าด้วยวิธีกัวซา ได้อีกด้วย โดยการกระตุ้นเส้นชีพจรบนใบหน้า ช่วยลดจุดด่างดำ ชะลอริ้วรอยแห่งวัย ลดความเสื่อมของเซลล์ผิวหน้า ลดการเหี่ยวย่น และทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ละเอียดอ่อนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการกัวซาใบหน้ายังมีส่วนในเรื่องของการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวหนัง กระตุ้นการหมุนเวียนสูบฉีดของโลหิต ทำให้ได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ และปรับสมดุลระบบการทำงานของอวัยวะภายใน ทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นเป็นประกาย และหน้าดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง
ผู้ที่สนใจเข้ารับการอบรมสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ธรรมชาติบำบัด อาจารย์หยาง โทร 02-6370121-2, 086-3785331 www.qigongthai.com หรือ Line ID: qg_yang, qigong_yang