กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๒๕ พ.ค. ๕๙) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า จากกรณี เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เวลา ๒๓.๐๐ น. เกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียนหญิงชั้นประถมของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาในจังหวัดเชียงราย ขณะที่เด็กอยู่ในหอพักดังกล่าวจำนวน ๓๖ คน ภายหลังพบว่า มีเด็กถูกไฟคลอกเสียชีวิตรวมจำนวน ๑๗ ราย บาดเจ็บ ๕ คน (บาดเจ็บสาหัส ๒ คน และบาดเจ็บเล็กน้อย ๓ คน) และไม่ได้รับบาดเจ็บ ๑๔ คน โดยได้มอบหมายให้นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เมื่อวานนี้ (๒๔ พ.ค. ๕๙) ล่าสุด ได้รับรายงานว่า ครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตทั้งหมด ๑๗ ราย ได้รับมอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ครอบครัวละ ๓,๐๐๐ บาท พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และมีการเยี่ยมและให้กำลังใจเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว ณ โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวทั้งหมด ๓๖ ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย ๒๓ ราย เชียงใหม่ ๑๒ คน และแม่ฮ่องสอน ๑ ราย ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน (พมจ. เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน) รวมทั้งบ้านพักเด็กและครอบครัวในพื้นที่ทั้งสามจังหวัด เร่งลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวของเด็กที่เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือและเยียวยาอย่างต่อเนื่องตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเรียนต่อในสถานศึกษาใกล้บ้าน โดยเฉพาะโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ที่มีที่พักสำหรับเด็ก อีกทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองจะสามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิด
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความปลอดภัยด้านอาคารสถานที่ของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ที่ดำเนินงานภายใต้มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวจดทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเด็กร่วมใจ พบว่า เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของการจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู พ.ศ. ๒๕๔๙ ตามพระราชบัญัญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ เช่น มีอาคารที่ตั้งในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีห้องนอน ห้องกิจกรรม ห้องครัว ห้องพยาบาล และห้องน้ำ ที่ถูกสุขลักษณะ และมีทางเข้า – ออก ที่สามารถเคลื่อนย้ายเด็กเวลาเกิดอัคคีภัยหรือ ภัยพิบัติ เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินการต่อไป กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะได้เร่งดำเนินการศึกษาเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพื่อหามาตรการในการป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก เช่น ต้องมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม และ การซักซ้อมในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอัคคีภัย เป็นต้น ซึ่งจะดำเนินการไม่เฉพาะกับสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ ที่ดูแลเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่รวมไปถึงที่ดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม นอกจากนี้ จะได้จัดทำคู่มือป้องกันอัคคีภัยและแจกจ่ายไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน เพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อไป