กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--โรงพยาบาลเวชธานี
"โรคภูมิแพ้" โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก จาม ซึ่งทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญไปกับอาการเหล่านี้ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวไกลมีวิธีรักษาโรคจมูกอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ RF
โดยปกติจมูกของคนที่เป็นภูมิแพ้จะไวต่อสิ่งกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน หรืออากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น อากาศเย็น ก็จะทำให้มีอาการ คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกให้เห็น ซึ่งปกติวิธีที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงสิ่งที่มากระตุ้น แต่ก็ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก แพทย์เลยมีจำเป็นต้องให้รับประทานยาร่วมกับการพ่นยาในบางราย
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการรักษาโรคภูมิแพ้ในรูปแบบใหม่ด้วยคลื่นวิทยุ RF ซึ่งเป็นการรักษาเยื่อบุโพรงจมูกในคนที่เป็นภูมิแพ้และไม่ค่อยตอบสนองกับการใช้ยา โดยวิธีการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ RF นี้ แพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูกคนไข้ หลังจากที่สอดใส่เข้าไป คลื่นวิทยุจะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานความร้อน หลังจากนั้นเยื่อบุโพรงจมูกก็จะมีการสร้างผังผืดและหดตัวลง เมื่อเยื่อบุโพรงจมูกลดขนาดลงจึงส่งผลให้ช่องขนาดโพรงจมูกใหญ่ขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยจึงหายใจได้โล่งขึ้น นอกจากนี้บางส่วนของ ความร้อนจากคลื่นวิทยุ จะไปทำลายเส้นประสาทเล็ก ๆ กับต่อมที่สร้างน้ำมูกในโพรงจมูก ทำให้อาการน้ำมูกน้อยลง
หลังจากการรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะดูอาการผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยนอกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หากไม่มีเลือดออกก็สามารถกลับบ้านได้พร้อมทั้งยากลับบ้าน ซึ่งจะรวมไปถึงยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และยาลดบวมของเยื่อบุโพรงจมูก ที่สำคัญก็คือ ผู้ป่วยอาจมีอาการ คัดจมูกเพิ่มขึ้นในช่วง 2 – 3 วันแรก แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนยกหัวสูง และประคบบริเวณเย็นบริเวณจมูกเพื่อลดบวม ลดการเลือดออก ของเยื่อบุโพรงจมูก เป็นต้น