กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--ป.ป.ช.
พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561 - 2565) ณ ห้องนนทบุรี 1 อาคาร 4 ชั้น 3 สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดนนทบุรี
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับการจัดทำ
ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561 – 2565) นี้ จะเป็นทิศทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศที่มุ่งเน้นการปฏิรูป การแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศในองค์รวม ที่เท่าทันต่อสถานการณ์ และมุ่งหวังจะให้ปัญหาการทุจริตของประเทศลดลง และประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังจะถูกใช้เป็นกรอบในการบูรณาการการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ โดยหน่วยงานภาครัฐสามารถนำไปกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการประจำปี และมีแนวปฏิบัติด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นกรอบหลักสำหรับการจัดทำคำของบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ อีกด้วย
ส่วนเป้าหมายหลักด้านการปราบปรามการทุจริตจะมุ่งเน้นที่การปฏิรูปและเพิ่มประสิทธิภาพการ ปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมาย ที่รวดเร็ว และเป็นธรรม ผู้กระทำผิดต้องได้รับการลงโทษ นอกจากนั้น ทั้งงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ ๓ เป็นการพัฒนาต่อยอดสิ่งที่ประสบความสำเร็จจากการ ดำเนินการเดิม ให้เกิดผลที่ดีกว่า และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินการในทุกมิติ เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุด ที่จะนำไปสู่ระบบ กลไก ต่างๆ ของประเทศที่ปลอดการทุจริต หรือให้มีน้อยที่สุด ซึ่งการจะมุ่งสู่จุดนั้นได้ ต้องอาศัยการกำหนดยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม ทั้งการสร้างสังคมยุคใหม่ ชุดนิสัยของคนไทยยุคใหม่ที่ไม่อดทนต่อการทุจริต การกำกับให้เจตนารมณ์ของฝ่ายการเมืองในการต่อต้านการทุจริตมีเสถียรภาพ การสร้างให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการนโยบายอย่างแท้จริง การปฏิรูปงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการยกระดับภาพลักษณ์ความโปร่งใสของประเทศไทยในเวทีโลก
เมื่อเสร็จจากขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว จะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ แผนงานโครงการร่วมกันและออกแบบระบบการติดตามและประเมินผล และเมื่อเสร็จแล้ว จะได้มีการนำยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ ๓ ฉบับสมบูรณ์ ชี้แจงต่อสาธารณะ ซึ่งกำหนดไว้เบื้องต้นจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ พร้อมประสานและหารือกับรัฐบาลโดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณในลักษณะบูรณาการ ที่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในอนาคตควรกำหนดเป็นสัดส่วนของงบประมาณแผ่นดิน ที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้การขับเคลื่อนเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างถ้วนทั่วและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ยังขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนได้ให้ความสำคัญในการติดตามและเสนอความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561 – 2565) นี้เป็นระยะๆ อีกด้วย