กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
"เมื่อตอนได้ข้อมูลของท่านมาเป็นหนังสืองานศพ ในหนังสือเราจะเห็นว่ามีพวงหรีด จากในหลวง พระราชินี และ เชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ จนเปิดไปด้านใน เราได้เห็นรูปถ่ายจริงรูปหนึ่ง เป็นภาพของท่านขุนพันธ์ใส่ชุดนายตำรวจ ห้อยกระบี่ที่เอว ย่อตัวลงกำลังยื่นมือต่อเทียนเล่มหนึ่งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว..... ในความรู้สึกเราท่านคือ อัศวิน ท่านคือ ทหารพระราชา... จากภาพนั้นทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละคืองานเรา นี่ละโปรเจกต์นี้ ต่อเทียน เราสู้สุดชีวิตละ เราจะต่อเทียนกันต่อไป"
ก้องเกียรติ โขมศิริ
ผู้กำกับและเขียนบท
เรื่องราวของ ขุนพันธ์
จากเรื่องราวชีวิตของ ท่านขุนพันธ์ พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร์ พันธรักษ์) ยอดตำรวจวีรบุรุษ ผู้มีตัวตนจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ด้วยอายุยืนยาวถึง 108 ปี ผู้เป็นทั้งนักสืบ, มือปราบ และจอมขมังเวทย์ คือนายตำรวจผู้แกร่งกล้าด้วยอาคม บ่มเพาะความดี และมีจิตยึดมั่นในพลังแห่งศรัทธา เพื่อปราบปรามคนเลวที่ต้องการตัวมากที่สุดในแฟ้มอาชญากรรมของกรมตำรวจที่มีนับไม่ถ้วน
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ บาแรมยู ภูมิใจเรียกศรัทธาอันแรงกล้าคืนกลับผืนดินไทย สู่ปรากฎการณ์ "ขุนพันธ์" สุดยอดภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี จากฝีมือเขียนบท-กำกับภาพยนตร์โดย ก้องเกียรติ โขมศิริ (ลองของ,ไชยา,เฉือน,อันธพาล) ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว พร้อมระดมทีมงานสร้างระดับแถวหน้าของเมืองไทยร่วมเนรมิตความยิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์
ครั้งแรกของการเผชิญหน้าทางด้านการแสดงในระดับสุดยอดที่ทุกคนต้องขนลุก พร้อมการปะทะบทบาทแอ็คชั่นทุ่มสุดตัว ของ "อนันดา เอเวอริงแฮม" ในบท "ขุนพันธ์" และ "กฤษดา สุโกศล แคลปป์" ในบท "อัลฮาวียะลู" พร้อมเชือดเฉือนบทบาทสุดเข้มข้นกับเหล่านักแสดงคุณภาพอย่าง เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, แฟรงค์เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี พร้อมด้วย กานต์พิสชา เกตุมณี จาก แม่เบี้ย
ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวสู่โลกอารยะ เมื่อความเจริญเริ่มรุกล้ำแต่ผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะมีข้าราชการใจคดขายชาติคอยชักใยหนุนหลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อยู่
จังหวัดชุมพร ปีพ.ศ.2481 ทั้งๆที่ปืนในมือเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวแต่นายบุตร์ หรือ ร้อยตำรวจโท ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้อาศัยความสามารถ และวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมาเด็ดชีพ เสือสายหัวหน้าโจรผาแดง พร้อมลูกสมุนที่อุกอาจฮึกเหิมบุกเข้ามาปิดเมืองล้อมตำรวจได้เป็นผลสำเร็จ ขุนพันธ์เลือกที่จะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด โดยทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพันนั่นคือ การเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ "อัลฮาวียะลู" (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย ครองอิทธิพล แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ เป็นที่เลื่องลือกันว่ามหาโจรผู้นี้แกร่งกล้า
เพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว สามารถเข้าไปในจิตของคู่ต่อสู้ มีกริชเป็นอาวุธ และมีวิธีสังหารเหยื่อพิสดารในดินแดนที่เต็มไปด้วยภยันตรายถิ่นฐานของ"อัลฮาวียะลู" ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก 2 พี่น้องชาวประมง ไข่โถ (สนธยา ชิตมณี) และ มาลัย (กานต์พิสชา เกตุมณี) ไม่เพียงให้ที่พักแต่ยังฝากงานในสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ที่ทุกคนเคารพและยำเกรงให้อีกด้วย นอกจากนี้ขุนพันธ์ต้องเผชิญหน้ากับ 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็น และไร้ความปราณีอย่าง เสือสัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) และบุหงา (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้าย
ขุนพันธ์ได้รู้ความจริงว่าเมืองทั้งเมืองคือ ชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมืองใหญ่ ข้าราชการท้องถิ่นคอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกิน และขายชาติ การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบ และมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้
อาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก เขาจะพิสูจน์ให้รู้ว่าแรงกระสุน หรือ จะสู้แรงศรัทธา
14 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์