กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ตลท.
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีมติให้เร่งดำเนินการเพื่อฟื้นฟูภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเน้นการเสริมสร้างสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการลงทุนเพื่อสร้างความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ และการเพิ่มสินค้าในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งจำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่และจำนวนหุ้น Free Float
นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการประชุมวาระพิเศษของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2543 ว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้รับทราบภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ซบเซาต่อเนื่องในขณะนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากภาวะแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในงวด 6 เดือนแรกของปี 2543 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยหากไม่รวมผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินและบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน จะมีกำไรสุทธิรวม 24,503 ล้านบาท มีบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิ 216 บริษัท และมีผลขาดทุนสุทธิ 134 บริษัท และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิมีจำนวนถึง 23 กลุ่ม อยู่ในภาคการผลิต อุตสาหกรรมและบริการ กลุ่มที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ สื่อสาร พลังงาน และชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ เป็นต้น ซึ่งบริษัทในกลุ่มนี้มีแนวโน้มการดำเนินงานดีขึ้นจากยอดขายและอัตรากำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) ที่เพิ่มขึ้น แต่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาท นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทจดทะเบียนก็มีความคืบหน้า โดยมีบริษัทจดทะเบียนที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จจำนวนประมาณร้อยละ 40 ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนให้กลับมาสู่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะต่อไป
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มีมติให้ตลาดหลักทรัพย์เร่งดำเนินการเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
1) การส่งเสริมการลงทุนในหลักทรัพย์
-เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และพัฒนาการใหม่ๆ ให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในหลักทรัพย์
-ส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดทำรายงานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Research) มากขึ้น โดยให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานที่เป็นประโยชน์สำหรับให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
-ดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดในการขยายฐานผู้ลงทุน โดยจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ และการลงทุนในหลักทรัพย์ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความสนใจ (Awareness) เกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มผู้มีเงินออมและมีศักยภาพในการลงทุน ในรูปแบบของ Investment Fair ที่มีกิจกรรมให้ความรู้ผสมผสานความบันเทิง รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลและบริการต่างๆ ด้านการลงทุนของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2) การเพิ่มสินค้าในตลาดหลักทรัพย์
-ขณะที่ระบบเศรษฐกิจและตลาดทุนของประเทศอยู่ในภาวะซบเซาเช่นปัจจุบัน การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมแก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหนือกว่าบริษัททั่วไปเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นสิ่งจูงใจและกระตุ้นให้ธุรกิจสนใจนำหลักทรัพย์มาจดทะเบียน ซึ่งจะช่วยขยายฐานสินค้าในตลาดหลักทรัพย์และสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถระดมทุนในตลาดทุนแทนการกู้ยืม โดยอาจกำหนดเป็นมาตรการชั่วคราวระยะสั้น เช่น ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทจดทะเบียนให้ต่ำกว่าบริษัททั่วไปประมาณร้อยละ 5 เป็นระยะเวลา 3-5 ปี เป็นต้น
-ดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกเพื่อชักชวนธุรกิจที่มีศักยภาพเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
-ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มปริมาณหุ้นที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Free Float) ให้มากขึ้น ด้วยการกำหนดราคาตราไว้ต่อหุ้น (Par Value) ที่เหมาะสม การเพิ่มการกระจายหุ้นไปสู่บุคคลภายนอกมากขึ้น ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันในเรื่องดังกล่าว
อนึ่ง หน่วยงานหลัก 4 องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ , สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ , สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดจะร่วมมือกันเพื่อจัดการเสวนาพิเศษในหัวข้อ " ผ่าทางตัน .... ตลาดหุ้นไทย " ในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2543 ระหว่างเวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของแต่ละองค์กรเป็นผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ดร. ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ,นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, นายวิโรจน์ นวลแข นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์, ม.ล. ผกาแก้ว บุญเลี้ยง นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และดร. วรภัทร โตธนเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ดำเนินการเสวนา เพื่อเป็นการร่วมให้ข้อมูล ความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนทัศนะ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ตลาดหลักทรัพย์เผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งทิศทางการพัฒนาในอนาคต เพื่อให้ผู้ลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ได้มีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และอนาคตของตลาดทุนไทย นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำต่างๆ จะนำบริการต่างๆ มาจัดแสดง พร้อม ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแก่ผู้เข้าร่วมการเสวนาอีกด้วย
ผู้สนใจเข้ารับฟังการเสวนาพิเศษดังกล่าว ติดต่อสำรองที่นั่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่ ฝ่ายสารนิเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โทร. 229-2040-43 โทรสาร 359-1005-6
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ ฝ่ายสารนิเทศ
โทร. 229-2046 หรือ 229-2040 ถึง 2043
โทรสาร 359-1005--จบ--
-อน-