สนพ. เผยผลการศึกษาผลกระทบ การใช้พลังงานในภาคการท่องเที่ยว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 8, 2016 14:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--Kith and Kin สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เผยผลการศึกษาผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศ พบว่าการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน จะส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.10 และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.05 ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและเป็นภาคส่วนที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายตัวของการท่องเที่ยวย่อมส่งผลให้เกิดความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นทั้งการใช้โดยตรงและโดยอ้อม ทั้งนี้ มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (มพส.) ได้ทำการศึกษาถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการใช้พลังงานของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาพักค้างในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลจากระบบบัญชีประชาชาติการท่องเที่ยว (Tourism Satellite Accounts) ร่วมกับ ตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Input-Output Table) วิเคราะห์ผลกระทบโดยใช้แบบจำลองปัจจัยการผลิตและผลผลิต (Input-Output Model) พบว่าในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวน 29.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีการใช้จ่ายเป็นมูลค่า 1,447,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.4 โดยเป็นการใช้จ่ายสำหรับค่าโรงแรมและที่พักร้อยละ 26.2 ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 22.5 ค่ารถโดยสารและการเดินทางร้อยละ 5.3 เป็นต้น ซึ่งการใช้จ่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับการใช้พลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ การใช้ไฟฟ้าเพื่อแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศในโรงแรมและที่พัก การใช้พลังงานประเภทแก๊สหุงต้มและไฟฟ้าจากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากการเดินทางในรูปแบบต่างๆ โดยพบว่า กรณีที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศทุก 1 ล้านคน จะมีผลทำให้ความต้องการพลังงานประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง (Petroleum Refineries) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.05 เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ในขณะที่ความต้องการพลังงานประเภทไฟฟ้าและแก๊ส (Electricity and Gas) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.10 นอกจากนี้เมื่อศึกษาลงไปในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) เดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 2.99 ล้านคน คาดว่าความต้องการพลังงานประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยทั้งเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 และพลังงานประเภทไฟฟ้าและแก๊สเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.3 โดยความต้องการใช้พลังงานของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีอัตราเพิ่มเป็น 2 เท่าของความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันปริมาณการใช้พลังงานของไทยโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อให้การคาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานของประเทศในอนาคตของ สนพ. รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างสอดคล้อง สนพ. จะได้นำผลการศึกษาดังกล่าวไปประกอบการวางแผนด้านพลังงานของประเทศที่เหมาะสม "การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็มีผลต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้น และจากข้อมูลที่กล่าวมา พบว่าการท่องเที่ยวมีผลกระทบต่อการใช้พลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น สนพ. จะนำผลการศึกษาที่ได้นำไปวางแผนการใช้พลังงานภาคท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป พร้อมกันนี้ อยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวลดการใช้พลังงาน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของพลังงานของประเทศ" ดร.ทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ