กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--กทม.
ที่บ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.44) เวลา 12.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบทุนจำนวน 150,000 บาท ให้กับสมาคมฯ เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในกิจการของสมาคม โดยมีดร.สุธีรา ทอมสัน วิจิตรานนท์ นายกสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ เป็นตัวแทนรับมอบ และ นางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานครร่วมเป็นเกียรติ จากนั้นนายกสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ได้นำชมการดำเนินงานในบ้านพักฉุกเฉิน ดร.สุธีรา กล่าวว่า บ้านพักฉุกเฉินเป็นกิจกรรมหนึ่งของสมาคมฯซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่เดือดร้อน และประสบปัญหาจากการถูกทารุณกรรม ถูกข่มขืน ถูกทอดทิ้ง เด็กผู้หญิงหรือเยาวชนที่ตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ไม่เป็นที่ยอมรับจากครอบครัวและสังคม ผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV (เอชไอ วี) ซึ่งโดยเฉลี่ยมีผู้เดือดร้อนที่มาขอพักอาศัยและขอรับความช่วยเหลือจากสมาคมฯ ประมาณ 130 คนในแต่ละวัน
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้หญิงที่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะเยาวชนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทางกทม.และสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ จึงมีแนวคิดที่จะดำเนินการในเชิงรุก โดยการเผยแพร่ความรู้ เสริมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องของอนามัยเจริญพันธุ์ในกลุ่มเยาวชน ตามโครงการเสริมสร้างสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหาเนื่องจากมารดาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และมีปัญหาในเรื่องการดูแลและปัญหาโรคติดเชื้อที่เกิดจากมารดา เช่น โรคเอดส์ ประกอบกับขณะนี้ปัญหาสตรีที่ถูกกระทำทารุณทั้งทางร่างกายและจิตใจมีจำนวนมาก บางครั้งรัฐไม่สามารถเข้ามารองรับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีจึงมีโครงการช่วยเหลือบำบัดฟื้นฟูสตรีและเด็กเหล่านี้ โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาประมาณ 20 ปี ในรูปของการจัดตั้งบ้านพักฉุกเฉิน เพื่อรองรับเด็ก และสตรีให้มีที่พึ่งพิงภายหลังได้รับการกระทำทารุณจากสังคมแล้ว ลักษณะกิจกรรมที่ดำเนินการมีทั้งการให้การดูแล การพัฒนาอาชีพ กีฬา นันทนาการ และการรักษา เสริมสร้างทัศนคติ บำบัดทางจิตใจ อารมณ์ ฯลฯ จากการดำเนินการที่ผ่านมาสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีได้เล็งเห็นปัญหาที่ตามมาของการดำเนินการ คือ มารดาหรือสตรีที่อยู่บ้านพักฉุกเฉินหรือกลับไปอยู่กับครอบครัวใกล้เคียง ต้องการหางานทำเพื่อมีรายได้ แต่ไม่สามารถไปได้เนื่องจากไม่มีใครดูแลเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ประกอบกับการดำเนินการยังไม่เน้นเชิงรุกเข้าไปสู่ชุมชนอันเป็นแนวทางการป้องกันปัญหาในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ดังนั้นทางสมาคมฯจึงมีแนวคิดที่จะดำเนินการเชิงรุกใน 2 กิจกรรมหลัก คือ
1.การจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กอ่อน เพื่อมุ่งเน้นการช่วยเหลือเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปีที่เกิดจากมารดาที่มาขอความช่วยเหลือจากบ้านพักฉุกเฉิน 2 จำนวน 20 คน/วัน
2.การจัดตั้งคลีนิก “เพื่อนใจ” ศูนย์เสริมสร้างสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ เพื่อให้เป็นกิจกรรมเชิงรุกที่เน้นการป้องกัน และลดปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์และการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ลักษณะกิจกรรมจะมีการให้คำแนะนำทั้งทางตรงและทางโทรศัพท์ กิจกรรมสัญจรให้ความรู้ด้านสิทธิเจริญพันธุ์แก่กลุ่มวัยรุ่น ทั้งในระบบโรงเรียน นอกโรงเรียน และถือเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างครู อาจารย์ ผู้ปกครองในเรื่องสิทธิเจริญพันธุ์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับภารกิจของกรุงเทพมหานคร และช่วยเสริมงานในหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร จึงเห็นควรพิจารณาให้การสนับสนุนในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะได้มีการพิจารณาในรายละเอียดต่อไปภายใต้กฎระเบียบของกรุงเทพมหานคร--จบ--
-นห-