กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
ปัจจุบันพระสงฆ์และสามเณรไทยถือเป็น 1 ในกลุ่มเสี่ยงหลักที่มีโรครุมเร้าสูง จากการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยแป้งและไขมันสูงหรือมีรสชาติหวานจัดเค็มจัดที่ญาติโยมนำมาถวาย และขาดการออกกำลังกาย โดยข้อมูลการรักษาผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลสงฆ์ ปีงบประมาณ 2555 – 2557 ระบุว่า 3อันดับโรคร้ายที่พบมากในกลุ่มพระสงฆ์และสามเณรไทย คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหาร นอกจากนี้ ยังพบโรคอื่นๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญด้วย เช่น ข้อเข่าเสื่อม ต้อกระจก ไขมันในเลือดสูง ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM (โอเปอเรชั่น บิม) บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัญหาโภชนาการไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมรวมถึงกรณีอาหารปนเปื้อนไม่สะอาดเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่พระสงฆ์ไทยต้องเผชิญมาตลอด เพราะด้วยวัตรปฏิบัติทำให้พระสงฆ์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือเลือกฉันภัตตาหารที่มีผู้นำมาถวายได้ ดังนั้น พุทธศาสนิกชนควรคำนึงถึงความปลอดภัยและโภชนาการของอาหารที่นำไปทำบุญตักบาตรทุกครั้ง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ปลา ผัก ผลไม้ ไม่เน้นของทอด ลดอาหารหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ที่สำคัญต้องมั่นใจว่าไม่บูดเสียค้างคืน ถ้าเป็นไปได้ควรปรุงเสร็จใหม่ๆ จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นการทำบุญด้วยความตั้งใจดีก็อาจกลายเป็นการทำร้ายพระสงฆ์ทางอ้อมโดยที่เราไม่รู้ตัวได้
นอกจากนั้น สภาพสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันยังส่งผลให้รูปแบบการปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์แตกต่างจากในอดีต เช่น พระสงฆ์ในเมืองเดินไปบิณฑบาตด้วยระยะทางที่สั้นลง เวลาไปปฏิบัติกิจก็มีพาหนะเดินทางสะดวกสบาย ประกอบกับพระสงฆ์ยังมีข้อจำกัดไม่สามารถออกกำลังกายเหมือนฆราวาสได้ จึงมีโอกาสถูกคุกคามด้วยโรคต่างๆ ได้มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งปัญหานี้แก้ได้ด้วยการออกกำลังกายแบบง่ายๆ อย่างสำรวม โดยการเดินเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำได้ทั้งการเดินบิณฑบาต เดินจงกรม ต่อเนื่องเป็นเวลา 15-30 นาที หรือทำกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง อาทิ การกวาดลานวัด การเดินขึ้นลงบันได ยกเว้นพระสงฆ์ที่มีปัญหาข้อเข่า
"ที่ผ่านมาเราพบว่าพระสงฆ์มีปัญหาสุขภาพกันมากโดยเฉพาะเบาหวานความดันสูงจากอาหาร นอกจากรณรงค์ให้คนทั่วไปหันมาใส่ใจกับการเลือกอาหารทำบุญให้มากขึ้นแล้ว จึงเกิดความคิดว่าการเปิดโครงการ "ทำบุญด้วยภูมิสมดุล" ดูแลพระสงฆ์อาพาธทั่วประเทศ จะสามารถมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้อีกทางหนึ่ง โดยโครงการนี้เป็นการนำผลงานวิจัยสารสกัดจากพืช 5 ชนิด คือ มังคุด ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และบัวบก กว่า 39 ปี มาดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยต่างๆ อาทิ มะเร็ง ข้อเข่าเสื่อม เบาหวาน ภูมิแพ้ และความเสื่อมเกี่ยวกับดวงตา ด้วยการวิธีปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้สมดุล เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์มีสุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป"
ล่าสุด ศ.ดร.พิเชษฐ์ ยังได้พาทีมงานไปกราบนมัสการและถวายสารสกัดธรรมชาติแก่ พระราชวรคุณ (หลวงปู่สมศักดิ์ ปณฺฑิโต) เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ หลานของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและดูแลโรคเบาหวานที่ท่านเป็นมานานกว่า 50 ปี และตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพท่านไปตลอดจนกว่าจะหายขาดจากโรคอีกด้วย สำหรับพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการแนะนำพระสงฆ์อาพาธเข้าร่วมโครงการ "ทำบุญด้วยภูมิสมดุล" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1154 หรือwww.apco.co.th