กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--สสว.
5 ชาติที่มีความโดดเด่นของธุรกิจขนาดกลางและเล็กมาร่วมหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือและติดตามข่าวสารของแต่ละประเทศโดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพได้แก่ เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น หนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมในปีนี้คือ ข้อเสนอสร้างเครือข่าย (network) กลุ่มเอสเอ็มอีของ 5 ชาติ เพื่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ (business matching) ค้าขายกันเองในเครือข่ายระหว่างประเทศ และเชื่อมการค้าไปสู่ตลาดโลก
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการที่ สสว. เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมประชุม East Asia Round Table โดยเป็นการประชุมที่ริเริ่มโดยหน่วยงานส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่น SMRJ มี 5 ชาติที่มีความโดดเด่นของธุรกิจขนาดกลางและเล็กมาร่วมหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือและติดตามข่าวสารของแต่ละประเทศโดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น หนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมในปีนี้คือ ข้อเสนอสร้างเครือข่าย (network) กลุ่มเอสเอ็มอีของ 5 ชาติ เพื่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ ค้าขายกันเองในเครือข่ายระหว่างประเทศ และเชื่อมการค้าไปสู่ตลาดโลก
"ที่ประชุมได้รับรองและเห็นชอบกับแนวคิดนี้แล้ว ต่อไปก็ขยายผลเพื่อเตรียมเอสเอ็มอีของไทยให้พร้อมที่จะเข้าร่วมกับเครือข่ายอีก 4 ชาติ นั่นหมายความว่าเราก็สามารถขยายตลาดไปได้ในระดับโลกและนานาชาติ สำหรับญี่ปุ่นนั้นมีโมเดลเครือข่ายเพื่อค้าขายในกลุ่มเอสเอ็มอีภายในประเทศ หรือ J good text อยู่แล้ว ดังนั้น การขยายกลุ่มให้กว้างขวางเพิ่มขึ้นจะทำให้การค้าเป็น Globalize สร้างเครือข่ายให้เกิดการจับคู่ธุรกิจมากขึ้น ขยายออกไปสู่ตลาดอื่นๆ ผ่านเครือข่ายที่คัดเลือกและรับรองไว้แล้ว" ดร.วิมลกานต์ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำกลับมาเตรียมความพร้อมและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้แข่งแกร่งมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นในเวทีการค้าระหว่างประเทศ จากเดิมที่เป็นการซื้อขายระหว่างSupplier กับบริษัทแม่ แต่ปัจจุบันรูปแบบการค้าเปลี่ยนแปลงไป มีการทำธุรกิจโดยตรงระหว่างเจ้าของกิจการกันเองและกลุ่มเอสเอ็มอี ลดการพึ่งพาบริษัทตัวกลางลงไปมาก
อย่างไรก็ตาม หากมีเอสเอ็มอีในเวียดนามต้องการจะสั่งสินค้าจากเกาหลีใต้แต่ไม่มีบริษัทคู่ค้าโดยตรงที่นั่นก็อาจประสานผ่านเครือข่ายนี้ แล้วมีบริษัทของญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในเกาหลีใต้ที่ร่วมโครงการเป็นตัวแทนดำเนินการ ทำให้สะดวกมากขึ้นและมั่นใจได้ว่าเชื่อถือได้ ทำนองเดียวกัน หากเอสเอ็มอีไทย อยากไปเปิดตลาดเพิ่มในประเทศกลุ่มละตินอเมริกา แต่ไม่มีบริษัทคู่ค้าโดยตรง ก็ค้าขายผ่านบริษัทจากชาติอื่นที่เข้าร่วมเครือข่ายไดัเช่นกัน
ที่ประชุม East Asia Round Table ในปีนี้ยังเห็นชอบการจัดทำ SMEs CEO Networks เพื่อสร้างเครือข่ายระดับผู้บริหารของธุรกิจในกลุ่มเดียวกัน จัดพบปะให้บ่อยขึ้น รวมทั้งยกระดับการค้า สนับสนุนให้จัดงาน Expo SMEs Business Matching เริ่มจาก 5 ชาติสมาชิกซึ่งต้องคัดกรองผู้เข้าร่วมงานและจับคู่ธุรกิจมาก่อนล่วงหน้า โดยปีหน้าประเทศไทยจะเป็น เจ้าภาพการประชุม คาดว่าจะได้หารือความคืบหน้าโครงการนี้เพิ่มเติม พร้อมกับแผนส่งเสริมการจัดทำ Business Matching Trip ให้บ่อยขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยเช่นกัน
เอสเอ็มอีรายใดต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต(SME Strong/Regular Level)ได้ที่ โทรศัพท์ 02-549-3079 โทรสาร02-549-3080 Email : sme@rmutt.ac.th ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 นี้