กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เดียริสติก เอเจนซี่
หากพูดถึงไอศกรีม หลายๆ คน คงจะนึกถึงความอร่อยที่มาพร้อมกับความเย็นฉ่ำ แต่มีใครเคยลองนึกไหมว่ามีส่วนประกอบใดบ้างที่ซ่อนตัวอยู่ภายในไอศกรีม 1 สกู๊ป?
นมสด? ไข่แดง? น้ำตาล? โกโก้? วานิลลา? ผลไม้?ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดเป็นไอศกรีมได้แน่นอน แต่หากเราต้องการมากกว่าแค่ไอศกรีมทั่วไป หรือต้องการ "ไอศกรีมที่ดีที่สุด" ที่คัดสรร นมสด ไข่แดง น้ำตาล วานิลลา ผลไม้ และส่วนประกอบอื่นเพื่อผลิตไอศกรีมที่ดีที่เราจะหาสิ่งนั้นได้จากไหน?
ทุกวันมีแบรนด์ไอศกรีมนับร้อยแบรนด์ให้เลือกบริโภค แต่แบรนด์ไอศกรีมเก่าแก่อายุเกือบ 40 ปี อย่าง "เบน แอนด์ เจอร์รีส (Ben & Jerry's)" ยังคงยืนหยัดเป็นไอศกรีมยอดนิยม จนใครต่อใครยกให้เป็น "ไอศกรีมมีดี" ด้วยสูตรลับและกรรมวิธีผลิตไอศกรีมบนพื้นฐานของความตั้งใจดีว่าจะส่งต่อไอศกรีมที่ดีที่สุด"
"เราจะทำไอศกรีมที่ดีที่สุดบนวิถีทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ทุกๆ คำของไอศกรีมอัดแน่นไปด้วยสิ่งดีดี ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ แต่สูตรลับความสำเร็จที่ทำให้ไอศกรีมเบน แอนด์ เจอร์รีสเป็นไอศกรีมที่ครองใจคอไอศกรีมทั่วโลก คือกรรมวิธีการผลิตไอศกรีมที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งดีดีตั้งแต่ขั้นตอนแรกของกระบวนการผลิตเพื่อส่งต่อสิ่งดีดีให้กับลูกค้า ชุมชน สังคม และลดการสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด" เบน โคเฮน และ เจอร์รี่ กรีนฟิลด์ กล่าวถึงสูตรลับที่ทำให้เบน แอนด์ เจอร์รีส เป็นแบรนด์ไอศกรีมระดับตำนาน
"Ben & Jerry's" (เบน แอนด์ เจอร์รีส) คือ ไอศกรีม "มีดี" ที่เป็นมากกว่าแค่ไอศกรีมรสดี ไม่เพียงเพราะรสชาติที่อร่อยถูกใจใครต่อใคร หรือการอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ที่คอไอศกรีมทั่วโลกต่างยกนิ้วให้ แต่ทุกส่วนผสมของไอศกรีมแต่ละสกู๊ปมี "เรื่องราวดีดี" ที่อัดแน่นอยู่ทุกๆ คำของความอร่อย โดยมี นโยบายดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสจริงใจ มุ่งเน้นสร้างสรรค์ไอศกรีมทุกรสชาติบนพื้นฐานธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ส่งมอบสิ่งดีดี ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ วัตถุดิบทุกชนิดในส่วนผสม
เริ่มตั้งแต่ นมโคสด Ben & Jerry's คัดสรรผลิตภัณฑ์นมจากวัวที่ไม่ถูกฉีดสารเร่งโต (Recombinant Bovine Growth Hormone หรือ rBGH) และไม่ผ่านการตัดแต่งทางพันธุกรรม (Non-GMOs) โดย Ben & Jerry's ได้ร่วมก่อตั้ง โครงการ Caring Dairy ที่ใส่ใจทั้งระบบธุรกิจฟาร์มนม ช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงวัวให้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการ และให้มั่นใจว่าเกษตรกรมีเวลาเพียงพอสำหรับครอบครัวของเขา เมื่อวัวมีสุข เกษตรกรมีสุข โลกก็มีสุข นั่นเอง
วัตถุดิบอื่นๆ ได้แก่ น้ำตาล โกโก้ กาแฟ วานิลลา และกล้วย เป็นส่วนประกอบที่ได้มาโดยหลักการแฟร์เทรด หรือการค้าที่เป็นธรรม แฟร์เทรดเป็นองค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน เป็นตัวกลางในการเจรจาทางการค้า โดยเฉพาะกับผู้ผลิตและลูกจ้างในประเทศกำลังพัฒนาให้ได้มีโอกาสทำธุรกิจอย่างเท่าเทียม และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นนั่นเอง
ไปจนถึง บราวนี เป็นส่วนประกอบหลักในไอศกรีมช็อกโกแลต ฟัจด์ บราวนี รสยอดนิยมของ Ben & Jerry's โดย บราวนีที่นำมาใช้นี้ผลิตโดยองค์กร Greyston Bakery ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นบราวนีที่รสชาติเยี่ยมยอด และที่พิเศษกว่านั้นองค์กร Greyston Bakery ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างงานให้กับผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามองค์กรนี้จะรับพวกเขาเข้าทำงานอย่างไร้เงื่อนไข จึงพูดได้ว่า Ben & Jerry's ช่วยสร้างงานและรายได้ให้พนักงานเหล่านั้น และเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้ดี
ด้วยหลักการและความ "ตั้งใจดี" ที่เบน แอนด์ เจอร์รีส ส่งต่อ "สิ่งดีดี" อย่างจริงใจให้กับแฟนไอศกรีมกันแบบคำต่อคำ สูตรลับความอร่อยของเบน แอนด์ เจอร์รีส จึงไม่ได้เป็นเพียงตำรากรรมวิธี แต่ทุกวันที่ได้กลายเป็นสูตรลับความสำเร็จ และเป็นกรณีศึกษาวิถีแห่งการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมที่แบรนด์สามารถส่งมอบสิ่งที่ดีให้กับลูกค้า สร้างกำไรให้บริษัท ในขณะเดียวกันสามารถตอบแทนสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
และหากใครสักคน...ที่ต้องการค้นหาไอศกรีมที่เป็นมากกว่า "ไอศกรีมรสดี" ย่อมต้องนึกถึง "เบน แอนด์ เจอร์รีส" ไอศกรีมที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งดีดี ภายในไอศกรีมเพียงแค่ 1 สกู๊ป ซึ่งแฟนๆ ชาวไทยกำลังจะได้ลิ้มรสความอร่อยที่ส่งตรงมาจากอเมริกา รวมถึงได้สานต่อเรื่องราวดีๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยกัน
สำหรับคอไอศกรีมชาวไทย...ที่อยากค้นหา "เรื่องราวดีดี" ของ Ben & Jerry's ว่าจะมีดีอย่างไร ก็ลองมาดูให้เห็นกับตาได้ในกิจกรรม "Ben & Jerry's มีดีให้ดู" ที่จัดขึ้นให้ชาวไทยได้รู้จักแบรนด์ไอศกรีมที่ "มีดี" ก่อนเปิดร้านจริงในวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 นี้ ไปลองแอบดูสูตรลับ Ben & Jerry's ให้เห็นกับตาตัวเองได้ที่ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม นี้