สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองบ้านราชาวดีจัดงานวันแม่แห่งชาติ

ข่าวทั่วไป Friday August 11, 2000 13:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--กรมประชาสงเคราะห์
กรมประชาสงเคราะห์ร่วมกับสถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมอง และปัญญาบ้านราชาวดี จัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2543 เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ คุณหญิงวารุณี พรหมนอก แนะใช้หลักประชาธิปไตยในการเลี้ยงลูก ด้านผู้พิการทางร่างกายขอให้คนที่พ่อแม่ มีชีวิตอยู่ รีบทำประโยชน์คุณความดีให้พ่อแม่ชื่นใจ ส่วนมหาวิทยาลัยมหิดลจัดสัมมนาสู่สังคมเอื้ออาทร เมื่อแม่เผชิญปัญหา หากแม่เข้มแข็งจะช่วยเหลือลูกได้มาก
คุณหญิงวารุณี พรหมนอก ภริยา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เป็นประธานในการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2543 ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญาบ้านราชาวดี ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ และรำลึกในพระคุณของแม่ผู้ให้กำเนิด ให้การเลี้ยงดู และพัฒนาฟื้นฟูคุณภาพชีวิต คุณหญิงวารุณี กล่าวว่า กิจการของกรมประชาสงเคราะห์ในการดูแล ผู้รับบริการสงเคราะห์ต่าง ๆ ถือเป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ เสมือนการดูแลของแม่ที่มีต่อลูก จะต้องให้ความรักความเมตตากัน ปกป้องและฟื้นฟูพัฒนา ให้บุคคลเหล่านี้ได้มีชีวิตรอดอย่างมีคุณภาพ ถือเป็นภาระที่น่าชื่นชมยิ่ง นอกจากนี้ นางกิติมา ดุรงควิบูลย์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะแม่บ้าน นักเรียนตำรวจรุ่นที่ 18 ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็ก ๆ ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญาทั้งชายและหญิง สมาคมแม่บ้านแรงงานและสวัสดิการสังคม มอบโต๊ะฝึกยืน ทำกิจกรรมบำบัดชนิด 4 ช่อง เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพบำบัดแก่เด็กเพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้แก่เด็ก
สำหรับภายในงานมีพิธีมอบประกาศนียบัตรเกียรติคุณให้แก่แม่ดีเด่นของสถานสงเคราะห์จำนวน 4 ราย ได้แก่ นางพิมล ลาดชุมเสน นางไทยรักดี มรุเศรษฐ์ นางนุกูล จันทร์เอี่ยม และ น.ส.กมลวรรณ จันทร์ทำ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเสียสละ มีความรัก และปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลเด็ก ด้วยจิตใจที่มีความเมตตา มีความซื่อสัตย์ และประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม พร้อมทั้ง สามารถทำงานร่วมกับบุคคลอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี การเทิดพระเกียรติถวายราชสดุดี ถวายพระพรแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งมอบรางวัลให้เด็กที่ประกวดการวาดภาพคัดลายมือ ในหัวเรื่อง แม่ของฉัน การแสดงของเด็ก
คุณหญิงวารุณี กล่าวว่า มาร่วมงานวันแม่แห่งชาติทุกปี ตั้งแต่เป็นนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจมาเลี้ยงอาหารกลางวัน หาเงินบริจาคให้สถานสงเคราะห์ มีส่วนร่วมตลอดมา สำหรับการเลี้ยงดูลูกนั้น ตนใช้หลักประชาธิปไตย ใช้เวลาช่วงรับประทานอาหารเช้าและค่ำพูดคุยกันกับลูก อบรมสั่งสอน ส่วนใหญ่ พล.ต.อ.ประชา จะดูแลลูก มีความเป็นห่วง ก่อนนอนต้องพูดคุยกับลูกเสมอ บางครั้งลูกอยู่นอกบ้านจะใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกัน อย่างไรก็ตาม สภาพสังคมปัจจุบันเด็กมีความเสี่ยงต่อการติดยาเสพติด อยากให้พ่อแม่ดูแลเอาใจใส่ความประพฤติของลูก การเล่าเรียน การคบเพื่อน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ส่งผลเสียต่อเด็กและครอบครัวมาก
น.ส.อรกมล พลโยธา อายุ 20 ปี พิการทางร่างกายต้องใช้วีลแชร์ กำลังศึกษา คณะวิทยาการจัดการ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า ดีใจที่วันแม่เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ตนไม่อยากได้สิ่งของอะไรจากแม่ ขอเพียงความรักจากแม่ก็พอ แม่เพิ่งมาเยี่ยมเมื่อเดือนที่แล้ว ตนได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิให้แม่เป็นของขวัญแทนความรักจากลูก และอยากบอกเพื่อน ๆ ทุกคนว่า ใครที่ไม่มีแม่อย่าน้อยใจยังมีคนรอบข้างที่ยังรักเราเหมือนแม่เราจริง ๆ ด้านนายจารึก ชมเชย อายุ 23 ปี พิการทางสมอง เจ้าของรางวัลบ๊อกเซียจากการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 7 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กล่าวว่า ในวันแม่ 12 สิงหาคม อยากบอกว่า รักแม่มากที่สุดในโลก แต่ตนคงไม่มีโอกาสได้บอกแม่อีกแล้ว เพราะแม่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน สำหรับคนที่พ่อแม่มีชีวิตอยู่ อยากให้เขารักแม่มาก ๆ เดี๋ยวจะมาเสียใจภายหลังเหมือนตน ว่ายังไม่ได้ทำอะไรให้แม่ดีใจเลย อยากมอบพวงมาลัยมะลิให้แม่ ก็ไม่รู้จะไปพบแม่ได้ที่ไหน สำหรับบ้านราชาวดี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2517 รับอุปการะเด็กพิการทางสมองและปัญญา หญิงและชายอายุ 7-18 ปี ซึ่งครอบครัวยากจนหรือเป็นเด็กเร่ร่อน พลัดหลง ขาดผู้อุปการะ ถูกทอดทิ้ง นอกจากนั้นยังเตรียมความพร้อมทางด้านพัฒนาการ บริการด้านการแพทย์และการฟื้นฟูปรับร่างกาย ส่งเล่าเรียน ฝึกอาชีพในโรงเรียนผู้พิการหรือโรงเรียนร่วมกับเด็กปกติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บ้านราชาวดี โทร.583-8426
รศ.พ.ญ.นิตยา คชภักดี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันคนที่เป็นแม่ต้องประสบกับปัญหาหลายอย่าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว ปัญหาลูกไม่ปกติ แต่สังคมให้โอกาสกับคนที่เป็นแม่น้อยมาก มหาวิทยาลัยมหิดล อยากเห็นสังคมเห็นคุณค่าของแม่และหาแนวทางเพื่อช่วยให้แม่ได้มีทางออก มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้จัดสัมมนาสู่สังคมเอื้ออาทร เมื่อแม่เผชิญปัญหา เพื่อให้ทุกส่วนของสังคมได้ร่วมกันช่วยเหลือแม่ เพราะหากแม่ มีความเข้มแข็งในสิ่งต่าง ๆ จะสามารถช่วยเหลือลูกได้มาก นอกจากนี้ บุคลากรที่จะช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ กับแม่ในประเทศไทยยังขาดอยู่มาก แม้ว่าจะมีการเปิดสายด่วนไว้บริการ ก็ยังไม่สามารถรองรับแม่ที่ประสบกับความรุนแรงได้เพียงพอ จึงต้องเร่งสร้างให้ทุกฝ่ายได้มีความรู้มากขึ้น--จบ--
-นศ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ