กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,276.98-1,283.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 21,450 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,490 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.57 น.ของวันที่ 14/06/16)
แนวโน้มวันที่ 15 มิถุนายน 2559
ความสนใจในการลงทุนทองคำมุ่งไปที่การประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 14-15 มิถุนายน แม้ว่านักลงทุนคาดว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ และเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25-0.50% ต่อไป เพราะตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐในเดือนพฤษภาคมที่ชะลอตัวที่สุดในรอบกว่า 5 ปีครึ่งซึ่งลดการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้และความเสี่ยงเรื่อง Brexit หรือการที่อังกฤษจะทำประชามติในประเด็นที่ว่า อังกฤษควรจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไปหรือไม่ หลังจากผลสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียูมีจำนวนเพิ่มขึ้น และประเด็นนี้ก็กลายเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลก่อนที่จะทราบผลการทำประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของปี 2016 เช่นกัน สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ปรับเปลี่ยนท่าทีในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดแทบไม่มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนก็มีท่าทีระมัดระวังในไล่ซื้อทองคำเพิ่มเติม เนื่องจากต้องการรอดูสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ทั้งนี้ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบร่วงลง
ซึ่งจะส่งผลลบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กลยุทธ์การลงทุนเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลางอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยหากสามารถรับความเสี่ยงได้ อาจซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,264-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์พร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,303ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,264 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาจะปรับตัวลงต่อ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,273 (21,230บาท) 1,264 (21,080บาท) 1,255 (20,930บาท)
แนวต้าน 1,290 (21,510บาท) 1,303 (21,730บาท) 1,310 (21,850บาท)
GOLD FUTURES (GFM16)
แนวรับ 1,273 (21,330บาท) 1,264 (21,180บาท) 1,255 (21,030บาท)
แนวต้าน 1,290 (21,620บาท) 1,303 (21,840บาท) 1,310 (21,950บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999