กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็คทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์แห่งชาติ (SIPA) สมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย (ATCI) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไทย (ATSI) และอุทยานแห่งชาติซอฟท์แวร์ (Software Park) เปิดสิทธิบัตรซอฟท์แวร์และเทคโนโลยีรวม 500 รายการให้แก่บุคคลทั่วไป กลุ่มผู้ใช้ กลุ่มนักพัฒนาซอฟท์แวร์และบริษัทหรือองค์กรในชุมชุมโอเพ่นซอร์ส เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดทางเทคโนโลยีตามหลักการของโอเพ่นซอร์ส (Open Source Initiative — OSI) ทั้งนี้ เพื่อสร้างให้เกิด patent commons ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในอุตสาหกรรมว่า สิทธิบัตรจะได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้พัฒนาซอฟท์แวร์หรือกลุ่มผู้ใช้ ที่สามารถนำไปต่อยอดและสร้างสรรค์นวัตกรรมในวงกว้างต่อๆ ไป
ทั้งนี้ สำนักงานบริหารด้านสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ United States Patent and Trademark Office ประกาศว่า ปัจจุบัน ไอบีเอ็มมีจำนวนสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก ซึ่งต่อเนื่องยาวนานมาถึง 12 ปี ไอบีเอ็มจดสิทธิบัติไว้มากถึง 29,000 สิทธิบัตร เฉพาะในปี 2547 ปีเดียว ไอบีเอ็มจดสิทธิบัตรใหม่ถึง 3,248 สิทธิบัตร ซึ่งมากกว่าจำนวนสิทธิบัตรของบริษัทที่อยู่ในตำแหน่ง 2 ถึง10 รวมกัน ปัจจุบัน ไอบีเอ็มใช้เงินลงทุนมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและตรวจสอบรายชื่อของสิทธิบัตรทั้ง 500 รายการได้ที่
เว็บไซต์ของไอบีเอ็ม :- http://www.ibm.com/ibm/licensing/patents/pledgedpatents.pdf และรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ จากเอกสารโครงการความร่วมมือ
ตัวอย่างสิทธิบัตรที่นำมาเปิดเผยให้แก่นักพัฒนาเทคโนโลยีได้นำไปต่อยอด ได้แก่
Interfacing
Storage MGMT
Multi- Processing
Data Processing, Programming
Human Interfacing
Database & Data Handling
Image Processing and Video Technology
Human Language Processing
Compression, Encryption, and Access Control
Software Development & Object Technology
Internet, eCommerce, and Industry Specific
Networking and Network Management--จบ--