กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
แลนดี้ โฮม ผู้นำด้านนวัตกรรมของธุรกิจรับสร้างบ้านเมืองไทย ล้ำหน้าอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอ บริการเสริม 'Landy Elder Care' ขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยในยุคก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย
นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดองค์การสหประชาชาติได้ประเมินสถานการณ์ว่าปี พ.ศ. 2544-2643 จะเป็นศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรรวมทั่วโลกสำหรับประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติสรุปว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 โดยมีประชากรผู้สูงอายุร้อยละ 10.4 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ในช่วงปี 2567-2568 ดังนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุจึงมีความสำคัญในฐานะที่ แลนดี้ โฮม ได้วางนโยบายในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของวงการรับสร้างบ้าน บริษัทฯ จึงได้สร้างทีมนักออกแบบเฉพาะเพื่อดูแลและพัฒนาแบบบ้านสำหรับรองรับความต้องการของผู้สูงอายุในประเทศไทย
"การพัฒนาบริการเสริม 'Landy Elder Care' ของ แลนดี้ โฮม ในครั้งนี้ เราได้เริ่มจากการพัฒนาแบบในส่วนของห้องน้ำและทางลาดสำหรับวีลแชร์เป็นอันดับแรก ภายใต้บริการ 'Landy Elder Care Bathroom' โดยเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานผสานกับความสวยงามที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยและความอบอุ่น นอกจากนี้ยังคัดเลือกวัสดุด้านความปลอดภัยที่มีดีไซน์ควบคู่กับคุณภาพ เพื่อความกลมกลืนของทุกส่วนภายในบ้าน" นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร กล่าว
ทั้งนี้ บริการเสริม 'Landy Elder Care Bathroom' ถูกสร้างสรรค์เพื่อเสนอเป็นทางเลือกเบื้องต้น 2 แบบ ประกอบด้วย แบบ S1 สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งในแบบดังกล่าวจะถูกอัพเกรดในบ้าน ทุกแบบฟรี 1 ห้องต่อ 1 หลังหากลูกค้าต้องการ และแบบ S2 สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ในราคา 38,500 บาท ต่อห้อง นอกจากนี้ในส่วนทางลาดสำหรับวีลแชร์ แลนดี้ โฮม ได้รวมทางลาดหลากดีไซน์ให้ลูกค้าได้เลือกตามต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ คือ Type A ราคา 39,000 บาท Type B ราคา 58,500 บาท และ Type C ราคา 50,000 บาท
"การพัฒนาแบบบ้านในอนาคตนั้น จำเป็นต้องเน้นในเรื่องฟังก์ชั่นเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำได้อย่างมีศักยภาพแค่ไหนนั้นอยู่ที่ความพร้อมของทีมงานด้านการออกแบบ แลนดี้ โฮม เห็นความสำคัญในส่วนนี้อย่างมาก และเราเชื่อว่า 'ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม' จะเป็นปัจจัยที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจ ในแต่ละปีเราทุ่มงบกว่า 3 ล้านบาทเพื่อใช้ในส่วนงานด้านการพัฒนาและวิจัย เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยในไทย โดยเราจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในด้านดังกล่าว" นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร กล่าวสรุป