กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services พร้อมเข้าซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ mai 16 มิ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 800 ล้านบาท
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มเทคโนโลยี ในวันที่ 16 มิถุนายน 2559 โดย NETBAY ดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) นำเสนอแก่ผู้ใช้บริการในรูปแบบ Software as a Service (SaaS)เชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจและภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคธุรกิจและผู้บริโภค (B2C)ปัจจุบันบริษัทให้บริการ e-Business ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่ม e-Logistics Trading ซึ่งเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับพิธีการศุลากากรอิเล็กทรอนิกส์ 2) กลุ่ม e-Business Services เป็นบริการรายงานข้อมูลธุรกรรมลูกค้าที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน รวมถึงให้บริการข้อมูลในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า 3) กลุ่ม Project คือการพัฒนาระบบสารสนเทศภายในให้แก่องค์กร
NETBAY มีทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 160 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 40 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 8-10 มิถุนายน 2559 ในราคาหุ้นละ 4.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 160 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 800 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เน็ตเบย์ (NETBAY) เปิดเผยว่า NETBAY มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยี ดิจิทัล บิสซิเนสแพลทฟอร์ม ผสมผสานกับองค์ความรู้ทางธุรกิจด้านโลจิสติกส์และการนำเข้าและส่งออกสินค้าด้วยความใส่ใจ โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้า ภายใต้แนวคิด Better Faster Cheaper ทำให้ลูกค้าผู้ใช้บริการของบริษัทสามารถเข้าถึงบริการระบบสารสนเทศโดยใช้งบลงทุนไม่มาก เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ทดแทนการใช้เอกสาร ซึ่งนวัตกรรม เทคโนโลยี แพลทฟอร์มดังกล่าวถือเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ทั้งนี้ การนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดย NETBAY จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ
NETBAY มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ถือหุ้น 60.00% บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทยถือหุ้น 20.00% และนางสาวรสิตา จิรพิชิตชัย ถือหุ้น 0.50% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 11.76 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 เม.ย. 2558- 31 มี.ค. 2559) ซึ่งเท่ากับ 67.82ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.34 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.netbay.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th