(ต่อ4) บทประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง PLANET OF THE APES (พิภพวานร) ยึดทุกโรงทั่วไทย ฉายพร้อมสหรัฐอเมริกา 27 กรกฎาคมนี้

ข่าวทั่วไป Wednesday July 25, 2001 09:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--Twentieth Century Fox
ส่วน Industrial Light & Magic บริษัทที่เชี่ยวชาญงานสร้างวิช่วลเอ็ฟเฟ็ค ก็เข้ามาเสริมเติมแต่งเมืองวานร ( Ape City ) และองค์ประกอบในฉากอื่น ๆ ของ พิภพวานร ให้ตรงกับจินตนาการของ ทิม เบอร์ตั้น ( Tim Burton ) มากที่สุด นอกจากจะแต่งเติมภาพด้วยระบบดิจิตอลแล้ว ILM ยังใช้แบบเสมือน, สีด้าน ๆ, โมเดลต้นแบบที่มีเครื่องมือควบคุมการเคลื่อนไหว, สร้างอากาศยานด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค, สร้างฉากจำลองเพื่อการถ่ายทำระยะไกล, และฉากเพลิงไหม้ที่เสี่ยงอันตราย บิล จอร์จ ( Bill George ) ผู้ดูแลงานวิช่วลเอ็ฟเฟ็ค และ จอร์จ เมอร์ฟี่ ( George Murphy ) ผู้ช่วยดูแลงานวิช่วลเอ็ฟเฟ็คเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนำคณะ ILM สร้างสรรค์งานนี้โดยมี ทอม ซี. พีทซ์แมน ( Tom C. Peitzman ) ผู้อำนวยการงานสร้างวิช่วลเอ็ฟเฟ็คการควบคุมอย่างใกล้ชิดงานออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
คอลลีน แอ็ทวู้ด ( Colleen Atwood ) ผู้ออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เป็นผู้ดูแลงานตัดเย็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่อง PLANET OF THE APES มากกว่าหนึ่งพันชิ้น คณะผู้ร่วมงานของ แอ็ทวู้ด ทั้งช่างปั้น, คนหล่อแบบ, ช่างตัด, และช่างวัดตัว ต้องเริ่มงานก่อนเปิดกล้องนานถึงสี่เดือน
แอ็ทวู้ด ร่วมงานกับ ทิม เบอร์ตั้น ( Tim Burton ) บ่อยจนรู้ใจกัน "งานของ ทิม นี่มีความเป็นศิลปินขนานแท้ ดิฉันจึงต้องระมัดระวังว่า สิ่งใดเขาโปรด สิ่งใดเขาเกลียด" เธอกล่าว "หลังจากที่เคยร่วมงานกับเขาสร้างหนังมาสี่เรื่อง แค่เขาบอกมาว่าอยากได้ยังไง แค่คร่าว ๆ อย่างรูปทรง กับ สีนี่ก็พอจะเดาใจกันได้ถูกทาง"
แอ็ทวู้ด เองก็มีหัวคิดสร้างสรรค์ไม่น้อยเหมือนกัน เธอพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเพื่อถ่ายทอดวิถีชีวิต และการเคลื่อนไหวของเหล่าวานรให้ตรงกับจินตนาการของ เบอร์ตั้น มากที่สุด "เราออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เหมาะกับ วานร สวมใส่ง่าย และถอดออกสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าเรียนใน โรงเรียนวานร ( Ape School ) นั่นทำให้งานออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับวานรหลายชิ้นออกมาในแนวสมมาตร
งานออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ แอ็ทวู้ด ก็ปรับให้เข้ากับบุคลิกของนักแสดงแต่ละคนด้วย "ทิม ร้อธ ( Tim Roth ) นี่ต้องดูสง่างามให้สมกับบท เธ้ด ( Thade ) ผู้นำกองทัพวานร และดิฉันก็ต้องการให้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสะท้อนบุคลิกของเขาทุกกระเบียดนิ้ว" เธอสาธยาย "เลยออกแบบให้เขาสวมใส่เครื่องแบบคล้ายแมงมุมทรงพลังที่ดูน่าเกรงขาม" แอ็ทวู้ด ยังออกแบบหมวกเกราะของ เธ้ด ให้ยาวกว่าหมวกของวานรตัวอื่น ๆ เพื่อเสริมให้เขาดูโดดเด่นในการนำทัพเข้าประจัญบานกับมนุษย์"
ส่วน แอ็ทท่าร์ ( Attar ) เพื่อน และผู้นำกองทัพวานรคู่ใจของ เธ้ด ( Thade ) รับบทโดย ไมเคิ้ล คล้าร์ก ดันแคน ( Michael Clarke Duncan ) ที่มีรูปร่างสูงใหญ่มากนั้นก็ได้รับการเอาใจใส่จาก แอ็ทวู้ด เป็นกรณีพิเศษ "การออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้กับ ไมเคิ้ล นี่พอ ๆ กับการตกแต่งตึก Chrysler Building เลยเชียวนะ" เธอกล่าวกลั้วหัวเราะ "เราออกแบบให้ดูสูงใหญ่แทบจะเป็นงานสถาปัตยกรรม" แอ็ทวู้ดแต่งตัวให้ แอ็ทท่าร์ ด้วยเครื่องแบบสีดำและเงิน ในขณะที่พลทหารวานรจะสวมชุดสีแดง
งานออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้กับ มนุษย์ ก็เป็นงานที่ท้าทายความสามารถของ แอ็ทวู้ด ไม่แพ้กัน "พวกเขาถูกกดขี่ และใช้ชีวิตอยู่กันตามมีตามเกิด" แอ็ทวู้ดสาธยาย แอ็ทวู้ด ยังร่วมงานกับ เจน ไคล้ฟ ( Jane Clive ) ผู้ช่วยผู้ออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่า เนื้อผ้าพิเศษที่ดูผิวลื่นเป็นเกล็ด ๆ "มันเป็นวัสดุพิเศษที่มีสามมิติ" เธอสาธยาย ทั้งยังละเลงสีสันลงบนเสื้อผ้าเป็นลวดลายกันอย่างสุดฝีมือ โดยยึดสีพื้นผิวของพิภพวานรเมื่อมองลงมาจากชั้นบรรยากาศ และสีผิวของสัตว์เป็นหลัก
ส่วนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ ลีโอ นั้น แอ็ทวู้ดก็ปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก "เราไม่อยากให้ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ( Mark Wahlberg ) นุ่งผ้าเตี่ยววิ่งไปวิ่งมา" แอ็ทวู้ดเล่า ในเรื่องนี้เขาจะสวมเครื่องแบบนายทหาร เน้นส่วนสัดของร่างกายกำยำล่ำสัน และเหมาะกับการเอาชีวิตรอดในพิภพวานร เครื่องแต่งกายยุคศตวรรษที่ 21 ของเขานี่จะเข้ากันกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้คนที่อยู่บนพิภพวานรได้อย่างลงตัวดนตรีประกอบภาพยนตร์
เบอร์ตั้น เคยร่วมงานกับ แดนนี่ เอล์ฟแมน ( Danny Elfman ) มาจนแทบจะ "รู้ใจกัน" อย่างน้อยก็ในช่วงการเริ่มวางแนวคิดของเรื่อง "ผมรับโทรศัพท์จากสำนักงานของทิมเชิญร่วมประชุม" เอล์ฟแมนเล่า "ผมเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ว่า เขากำลังจะกำกับ PLANET OF THE APES ก็เลยพอจะรู้ว่าเขาน่าจะเรียกไปประชุมเรื่องอะไร แต่ผมไม่เคยได้ยินจากปากเขาเลยว่า อยากให้มันออกมาเป็นอย่างไร"
เมื่อ เอล์ฟแมน พบกับ เบอร์ตั้น บนเที่ยวบินไปนิวยอร์ค ( New York ) "นั่งกันไปเกือบครึ่งทางแล้วก็อดถามไม่ได้ว่า 'ตกลงว่าอยากจะคุยกับหรือเปล่านี่ ?' ทิมก็ตอบว่า 'ผมกำลังจะสร้างหนังจากเค้าโครงเดิมเรื่องของ "Planet of the Apes"' พอผมถามว่าเขาอยากให้มันออกมาเป็นยังไง เขาก็คิดอยู่สักครู่ แล้วตอบว่า 'เอาให้มันฉับไวเหมือนกับที่พวกมันกระโดดโลดเต้นเป็นใช้ได้' แล้วผมก็สังเกตเห็นตาของเขาลุกวาวเป็นประกาย และนั่นล่ะคือการประชุมทั้งหมด เขาพูดแค่นั้นจริง ๆ "
หลังจากนั้น เอล์ฟแมน ก็ไม่ได้คุยกับ เบอร์ตั้น อีกเลยจนกระทั่งเปิดกล้อง แม้จะเปิดกล้องแล้ว ทิมก็ยังสื่อสารแนวดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี่แปลก ๆ "ทิมสร้างหนังเข้าซึ้งถึงอารมณ์ และชัดเจนสุด ๆ มากกว่าที่จะต้องมานั่งตีความ หรือปีนกระไดดู ผมก็พยายามสร้างสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งมันก็ลงตัวพอดิบพอดีเลยเชียว"เบอร์ตั้น ย้ำชัดเลยว่า อยากได้ดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ดูยิ่งใหญ่ และขับเน้นอารมณ์ "ดนตรีนี่จะน่าเกรงขามมาก และอาจจะออกเก่าในเชิง 'ธรรมะ กับ อธรรม' เลยทีเดียว" เอล์ฟแมนสาธยาย แต่เขาก็ไม่ทิ้งความลำสมัยของเครื่องกำกับจังหวะ ทั้งยังบรรเลงโดยวงออร์เคสตร้าวงใหญ่ เอล์ฟแมน ถึงกับลงทุนนั่งกำกับเครื่องเคาะเจ็ดสิบหกร่องเสียงด้วยตัวเอง
เครื่องเคาะจังหวะทั้งหลายนี่ เอล์ฟแมน ยกพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวที่คิดค้นขึ้นเอง หรือไม่ก็หาซื้อมาจากทั่วทุกมุมโลกโหมกันเต็มที่ รวมทั้งกระทะของ Miners เคาะกับค้อน, เครื่องเคาะพื้นเมืองอินโดนีเซีย ( Indonesian instruments ), ระนาดอัฟริกันตะวันตก ( West African ) ขนาดยักษ์, ถังเบียร์ Schlitz คว่ำลงแล้วใช้ตะลุมพุกตี, ถังขยะขนาดใหญ่มาร่วมวงด้วย ซึ่งล้วนเป็นเครื่องเคาะจังหวะจากพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของ เอล์ฟแมน ที่ไม่ธรรมดาเท่าไรนัก
เอล์ฟแมน ยังดึงเอาเครื่องหยุดจังหวะ และสิ่งละอันพันละน้อยที่สะสมไว้มาใช้ในดนตรีประกอบฉากเปิดเรื่องอย่างเต็มที่ "หนังของ ทิม นี่สร้างภาพชัดเจนมาก และบางครั้งก็แปลกแหวกแนว ดนตรีบรรเลงโหมโรงต้นเรื่องนี่จะสะท้อนภาพรวมของหนังทั้งเรื่องได้เลย" เอล์ฟแมนสาธยาย "ผมจึงใส่ใจช่วงโหมโรงของ PLANET OF THE APES เป็นพิเศษ เพราะมันเป็นดนตรีที่หนักแน่น และหึกเหิมมาก"งานบรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์แต่ละฉากก็สร้างความประทับใจให้กับนักดนตรีชื่อดังมาก "มันราวกับคุณนั่งอยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเครื่องเคาะจังหวะห้าสิบชิ้น แล้วทุกชิ้นก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่จริงแล้วผมนั่งคุมมันอยู่ในห้องอัดเล็กนิดเดียวเอง"--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ