ดิจิตอล ออนป้า มั่นใจธุรกิจปี 2543 สดใส ไตรมาสที่ 2 กำไร 45 ล้านบาท

ข่าวบันเทิง Tuesday September 5, 2000 08:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
ศักยภาพพร้อมผลักดันไปสู่ความสำเร็จและยอดขายสูงสุดก่อนภาวะวิกฤติ
บริษัท ดิจิตอล ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศศักยภาพความพร้อมในการเป็นผู้นำวงการบันเทิงไทยในยุคดิจิตอล หลังประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างด้านการบริหาร พร้อมเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 กำไร 45 ล้านบาท มั่นใจผลประกอบการปี 2543
นายอิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดิจิตอล ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึง ความสำเร็จในการปรับโครงสร้างทางด้านการเงินและการบริหารที่ส่งผลให้ผลประกอบการประจำ ไตรมาสที่ 2 สามารถทำกำไรได้ถึง 45 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุน 327 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2542 "ผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมากมีผลมาจากความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท ดิจิตอล ไร้ท์ พิคเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของดิจิตอล ออนป้า จำนวน 108.3 ล้านบาท การออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 12 ล้านหุ้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้น 6.4 ล้านหุ้นในดิจิตอล ไร้ท์ พิคเจอร์ส ซึ่งจะทำให้ดิจิตอล ออนป้า เข้าถือหุ้นในดิจิตอล ไร้ท์ พิคเจอร์สเพิ่มขึ้นเป็น 100% จากเดิม 80% และการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3,080 ล้านบาท เป็น 3,410 ล้านบาทของดิจิตอล ออนป้า"
"ความสำเร็จจากการปรับโครงสร้างหนี้ที่ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสสองมีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาทและ มีราคาสุทธิต่อหุ้นไม่ขาดทุน แสดงให้เห็นถึงสถานภาพทางการเงินที่เริ่มมั่นคงและความพร้อมที่จะสร้างผลประกอบการดีขึ้นในอีกสองไตรมาสของปีและในอนาคตของดิจิตอล ออนป้า"
นอกจากการปรับโครงสร้างทางการเงินแล้ว ดิจิตอล ออนป้า ยังได้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้วยการนำ ผู้บริหารมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์ในแวดวงดนตรีและบันเทิงในระดับนานาชาติเข้ามาดูแลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ โดยล่าสุดได้แต่งตั้ง มร. แฟรงกี้ เชีย เป็นกรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ มร. จิมมี่ วี เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด
มร. แฟรงกี้ เชีย มีประสบการณ์ในการทำงานด้านธุรกิจเพลงและบันเทิงมากว่า 25 ปี ด้วยการนำบริษัทเพลงชั้นนำในมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น บริษัท อีเอ็มไอ มาเลเซีย บริษัท วอร์เนอร์ มิวสิค และบริษัท บีเอ็มจี ขึ้นสู่ระดับแนวหน้าของประเทศ นอกจากนี้ มร. เชีย ยังได้จัดตั้งบริษัทผลิตและจำหน่ายเทปในชื่อ แปซิฟิก มิวสิค และได้ร่วมมือกับทีวีบี ฮ่องกง ในการบุกเบิกธุรกิจด้านวิดีโอ ก่อนหน้าเข้าร่วมงานกับบีเอ็มจี โดยเขาทำให้บีเอ็มจีประสบความสำเร็จอย่างสูง ส่วนมร. จิมมี่ วี นั้น อยู่ในแวดวงด้านธุรกิจเพลงและบันเทิงมาเกือบ 30 ปี โดยสร้างผลงานที่โดดเด่นในบริษัทต่างๆ อาทิ อีเอ็มไอ เร็คคอร์ดส์ ดับบลิว จีเอ (วอร์เนอร์ มิวสิค) และโพนี่ แคนยอน เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นต้น
"ด้วยประสบการณ์ในการทำงานด้านธุรกิจเพลงและบันเทิงมายาวนาน ทำให้ทั้งสองท่านมีความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้งและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจเพลงและบันเทิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพใน การดำเนินงานและการตลาดให้แก่บริษัทฯ" คุณอิทธิวัฒน์ กล่าว
ทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ของดิจิตอล ออนป้า นอกจากจะเน้นในเรื่องมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากลแล้ว ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการผลิตและขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ด้วยการทำให้เนื้อหาของผลิตภัณฑ์มัลติมีเดียที่มีอยู่ในระบบ อนาล็อกเป็นระบบดิจิตอลหรือที่เรียกว่า Digital Asset Management เพื่อให้สามารถจัดจำหน่ายได้กว้างขวางผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มของเครือข่ายการจัดจำหน่ายด้วยการเปิดตัวระบบการจัดจำหน่ายผ่านทางร้านค้าสะดวกซื้อและร้านค้าย่อยทั่วประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการทำการซื้อขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ระบบการซื้อขายผ่านโทรทัศน์และระบบการขายผ่านโทรศัพท์ ได้นั้น ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีผลประกอบการที่ดีในอนาคต
นายอิทธิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า จากศักยภาพและความพร้อมที่มีอยู่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายของบริษัทฯ ให้มากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ต้องประสบกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในช่วงที่ผ่านมาจนทำให้ยอดขายตกต่ำลงอย่างมาก จากประมาณ 2,000 ล้านบาทในปี 2539 มาเป็น 737 ล้านบาทในปี 2542
สำหรับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่จะพบในตลาดเพลงไทยมากกว่าตลาดเพลงสากล จากข้อมูลของสมาคม IFPI พบว่า ในขณะที่ยอดขายรวมในปี 2543 ของทั้งเพลงไทยสากลและเพลงสากลต่ำกว่าปี 2542 อยู่ 7.11% แต่ยอดขายรวมของตลาดเพลงสากลกลับมีอัตราที่สูงขึ้น 3.84% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นแนวโน้มที่สดใสและศักยภาพในการเติบโตของตลาดเพลงสากล โดยเพลงไทยสากลยังมีปัญหาด้านการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ แต่ถ้ามีการปราบปรามอย่างจริงจังจะทำให้อุตสาหกรรมเพลงไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก"
"อย่างไรก็ตาม ดิจิตอล ออนป้า เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการจำหน่ายทั้งเพลงไทยสากลและเพลงสากล เนื่องมาจากหลายปัจจัย อาทิ มาตรการในการแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาที่ทางรัฐดำเนินการอยู่ในหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายควบคุมการผลิตซีดี นอกจากนี้ การดำเนินคดีกับบริษัท แนพสเตอร์ อิงค์ (Napster Inc) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการดาว์นโหลดเพลงจากอินเตอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเพลงทั่วโลก และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการดำเนินธุรกิจเพลงและบันเทิงของดิจิตอล ออนป้า ในประเทศไทย ซึ่งมุ่งจะกลับไปสู่การมียอดขายในระดับเดียวกับเมื่อปี 2539" คุณอิทธิวัฒน์ กล่าว
ด้วยศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นของดิจิตอล ออนป้า นับตั้งแต่ความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้ การนำผู้บริหารมืออาชีพมาดูแลการดำเนินงานของบริษัทฯ ระบบการผลิตและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้ง แนวโน้มของยอดขายที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจากการป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวดมากขึ้น เหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บริษัท ดิจิตอล ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มีแนวโน้มผลประกอบการที่ดี และประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์มัลติมีเดียในประเทศและต่างประเทศในด้าน การส่งออกในอนาคตอันใกล้นี้
สนใจข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ดิจิตอล ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สามารถดูได้จากเว็บไซต์ www.digital-onpa.com
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อุดมลักษณ์ โอฬาร
บริษัท แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 257 0300 โทรสาร 257 0312
อีเมล์: udomlux@shandwick.th.com-- จบ--
-อน-

แท็ก เนชั่น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ