กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--โมโทเรน แวคร์เค่อ (ประเทศไทย)
นายเยซุส คอร์โดนา ประธานบริษัท บายเยอริชเช่อ โมโทเรน แวคร์เค่อ (ประเทศไทย) จำกัด (บีเอ็มดับบลิว) กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเข้ามาดำเนินกิจการภายในประเทศไทยครบ 1 ปี
ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดรถหรูหราได้เป็นครั้งแรก โดยช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) มียอดรวม 1,399 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 101.29% และมีส่วนแบ่งเพิ่มจากขึ้น 20% เป็น 38%
"การมีส่วนแบ่งรถหรูสูงสุด สะท้อนถึงความสำเร็จของบีเอ็มดับบลิว ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่หมายถึงตลาดภูมิภาคนี้ที่เรามีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด เช่น เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์" นายคอร์โดนากล่าว ความสำเร็จในประเทศไทย
เกิดจากความสามารถในการแก้ปัญหาในด้านบริการที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น อะไหล่แพงที่ลดราคาลงมาเฉลี่ย 10% หรือความล่าช้าของศูนย์บริการ นายดีเทอร์ เชค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลัง
การขาย กล่าวว่า บีเอ็มดับบลิวจะเน้นความพึงพอใจในด้านการบริการทั้งหลังการขายต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและทำให้บีเอ็มดับบลิวสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดรถหรูต่อไป โดยที่บริษัทจะมีการลงทุนด้านนี้อย่าง
ต่อเนื่อง เช่น การลงทุน 20-25 ล้านบาท/ปี ในด้านข้อมูลข่าวสารสำหรับลูกค้า ลงทุนด้านอุปกรณ์ 50 ล้าน/ปี และการลงทุนสูงสุดคือการลงทุน สำหรับเอาใจลูกค้าในด้านต่างๆ
สำหรับความคืบหน้าของโรงงานที่ระยอง คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด และจะเริ่มผลิตรุ่น 318 และ 323 เพื่อทำตลาดในช่วงไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 ปีหน้า หลังจากนั้นเมื่อรากฐานของบริษัทมั่นคง ก็จะขยายสู่การผลิตรถรุ่นอื่นๆ ต่อไป--จบ--
-สส-