กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์
ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ลงทุน 1.28 ล้านล้านรูเปี๊ยะ หรือ 153 ล้านเหรียญสหรัฐ
จาการ์ต้า, 30 สิงหาคม 2543 - บริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล (AI) หนึ่งในกลุ่มบริษัทธุรกิจชั้นนำของอินโดนีเซีย จับมือบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (HM) ผู้ผลิตเครื่องยนต์และจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศตกลงร่วมทุนจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่คือ บริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ (AHM) โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการในเดือนมกราคม ปีหน้า
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว บริษัท พี.ที.แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด จะถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 50 : 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในสัดส่วนของ บริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล นั้น จะได้มีการรวมทรัพย์สิน บุคลากร และอำนาจในการบริหารงานของบริษัทในเครือ 2 แห่งเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ บริษัท พี.ที.เฟเดอร์รัล มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในปัจจุบันและ บริษัท พี.ที. ฮอนด้า เฟเดอร์รัล ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท พี.ที. เฟเดอร์รัล มอเตอร์ และ บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ในสัดส่วน 45 : 55 เปอร์เซ็นต์ และมีบทบาทในการผลิตเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และโครงสร้างตัวรถให้กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า
นายฮิโรยูกิ โยชิโน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด แสดงความชื่นชมในวิสัยทัศน์ของ บริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล และกล่าวว่าทุนจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ จำนวน 1.28 ล้านล้านรูเปี๊ยะ หรือ 153 ล้านเหรียญสหรัฐนี้ แสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาของฮอนด้าที่มีต่อประชาชนและรัฐบาลอินโดนีเซีย
"เป็นที่คาดกันไว้ว่าปีนี้ อินโดนีเซียจะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกและมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการเติบโตของตลาดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การร่วมมือกันระหว่างฮอนด้าและอินโดนีเซียในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทางการตลาดโดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายของฮอนด้าที่มีอยู่ในภูมิภาคอาเซียนนี้"
นอกจากทุนจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นแล้ว บริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นนำและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทและพนักงาน 4,500 คน ในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัท และ บริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ ยังพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมและชุมชนของอินโดนีเซีย
"บริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ จะได้รับสิทธิ์ในการตัดสินใจนำเสนอรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สู่ท้องตลาดเพื่อการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในอินโดนีเซียได้ดียิ่งขั้นและสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ชัดเจน นอกจากนี้เพื่อสนองตอบต่อพันธะสัญญาของฮอนด้าในเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เราได้มุ่งมั่นพัฒนารถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ ให้มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงและลดปริมาณไอเสียให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เรายังมีเป้าหมายสำคัญคือ การได้รับ ISO14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่โรงงานชั้นนำของฮอนด้าทั่วโลกได้รับการรับรอง" มร. โยชิโนกล่าว
มร. ที.พี. รัชมัท ประธานบริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวต้อนรับฮอนด้าในฐานะที่ได้มีบทบาทในการส่งเสริมเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงานในอินโดนีเซีย พร้อมทั้งเสริมว่า "การก่อตั้งบริษัท พี.ที. แอสตร้า ฮอนด้า มอเตอร์ นี้นับเป็นประโยชน์ต่อประเทศอินโดนีเซีย และจะช่วยเสริมสร้างระบบการคมนาคมของชาติให้สามารถรองรับความต้องการของประชาชนชาวอินโดนีเซียในสภาวะตลาดที่กำลังเติบโตนี้ได้"
"เรามุ่งมั่นที่จะคงความเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ โดยการนำเสนอรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และต้องการก้าวเข้าสู่ตลาดโลก อีกทั้งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัยเพื่อการเสริมสร้างทักษะความสามารถขององค์กรอีกด้วย" มร. รัชมัท กล่าว
มร. รัชมัท ยังได้กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง บริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล และ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ซึ่งฮอนด้ามีความมั่นใจในศักยภาพของ บริษัท พี.ที. แอสตร้า อินเตอร์เนชั่นแนล ในเรื่องการบริหารเนื่องจากมีความรู้และคุ้นเคยกับสภาพตลาดเป็นอย่างดี และยังมีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศที่มีความสามารถในด้านการให้บริการอีกด้วย
ฮอนด้าเริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศอินโดนีเซียเมื่อ พ.ศ. 2514 ซึ่งในครั้งนั้นได้เซ็นสัญญาให้ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีการผลิตกับ บริษัท พี.ที. เฟเดอร์รัล มอเตอร์ ต่อมาใน พ.ศ. 2516 การร่วมมือดังกล่าวได้ขยายสู่การจัดตั้ง บริษัท พี.ที. ฮอนด้า เฟเดอร์รัล
ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของอินโดนีเซียใน 7 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนถึง 431,000 คัน เพิ่มขึ้น 101 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา นับเป็นยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และมีสัดส่วนการเจริญเติบโตของตลาดที่มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยฮอนด้ายังคงครองความเป็นผู้นำโดยมีส่วนแบ่งการตลาด 54.1 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 233,185 คัน
เผยแพร่ในนาม บริษัท เอเซี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ฮอนด้าประจำภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัท สปินเลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ มิสเตอร์ฮิโรชิ มิคาจิริ หรือ คุณพิมพร ศิริวรรณ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด โทรศัพท์ 236-0256 โทรสาร 635-1052--จบ--
-อน-