กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--Mind PR
นักเขียนระดับประเทศ รวมพลังคัดสรรผลงานความเรียงชิ้นเลิศกว่า 2,500 ผลงาน เข้าร่วมแสดงความ "จงรักภักดี สามัคคีปกป้องสถาบันของชาติ" ภายใต้โครงการ "ปลุกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน" ครั้งที่ 5 ของ กองทัพบก โดยกรมกิจการพลเรือนทหารบก เสริมสร้างพลังขับเคลื่อนสังคมไทย ให้มีความตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบของคนไทยพึงมีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
กิจกรรมครั้งนี้ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศทั้งระดับประถม-มัธยมต้น มัธยมปลาย อุดมศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไปนับตั้งแต่ประชาสัมพันธ์โครงการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมากระทั่งปิดรับผลงานวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 มีจำนวนผู้ส่งผลงานความเรียงกว่า 2,500 ราย
อาจารย์ทองแถม นาถจำนง บรรณาธิการ นักคิด นักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินผลการประกวดความเรียง กล่าวว่า การประกวดความเรียง คนทั่วไปจะนึกถึงการเขียนเรียงความส่งครู ซึ่งจะเป็นการตีกรอบมากเกินไป ในจำนวนงานเขียนที่ส่งเข้ามา บางคนไม่พูดถึงสถาบันอะไรเลย แต่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้ามาในรอบสุดท้าย เพราะสามารถตีความตามโจทย์ได้ตรงประเด็น เนื่องจากกิจกรรมการประกวดครั้งนี้ต้องการ ปลุกเร้าการทำดีเพื่อชาติ ทำดีเพื่อสังคมส่วนร่วม ทำดีเพื่อสถาบันต่างๆ ของชาติทุกสถาบัน ฉะนั้นการแสดงออกถึงพลังนั้น บางทีไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อสถาบันเลยก็ได้ แต่สามารถปลุกเร้าให้เกิดความรู้สึกอยากทำความดีเพื่อสังคม ต้องจับแก่นของการประกวดความเรียงได้ถูกต้อง การเขียนเรียงความไม่ใช่การอธิบายความ ต้องมีจินตนาการ มีอิสระในการนำเสนอ
ด้านนายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต นักคิด นักเขียน และวิทยากร กล่าวว่าการจะเป็นนักเขียนที่ดีได้ก็ต้องเป็นนักอ่านและเขียนในเรื่องที่คุณรู้ คนเก็บขยะอาจจะสร้างสรรค์งานเขียนในมุมมองที่เขาสัมผัสอย่างลึกซึ้งได้ดีกว่าอาชีพอื่น บางคนอาจจะเขียนถึงทะเลได้ดี บางคนเขียนถึงแม่น้ำได้ บางคนเขียนถึงสังคมหนึ่งได้ชัดเจน สะท้อนพื้นฐานที่เขาอยู่ ประกอบกับความสนใจอ่านหนังสือมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเสน่ห์ของคนที่ได้รางวัลคือเขามองการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันของชาติได้แตกต่างจากกรอบความคิดเดิมๆ
ส่วนอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2536 กวีรางวัลซีไรต์และสมาชิกสภาการปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า การประกวดความเรียงในครั้งมีมีผู้ส่งผลงานเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 2,500 ผลงาน คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือก เหลือแต่ละระดับ 30 ผลงาน ทั้งระดับประถม-มัธยมต้น ระดับมัธยมปลาย ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ฉะนั้นผลงานที่ได้รับการคัดเลือกต้องสามารถจับประเด็นของเรื่องได้ และมีลีลาการนำเสนอได้อย่างมีศิลปะของการเรียงความ คือ มีทั้งความรู้ และความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดได้อย่างเข้าถึงจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน รู้แค่ไหนเราก็เขียนแค่นั้น อย่าไปเขียนให้มันเกินจริง และงานเขียนของเรานั้นควรจะสะท้อนให้เห็นถึงที่มาของเรื่องที่เราจะเขียนด้วย.
สำหรับผู้ส่งผลงานความเรียงเข้าร่วมกิจกรรมปลุกนักเขียนประชันความสามารถเพื่อชาติชิง รายใดจะชนะใจกรรมการได้นั้น อดใจรอลุ้นการประกาศผลการตัดสินรางวัลที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้
ผู้สนใจสามารถรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมและติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ www.thailandwakeup.com และเข้ามาเป็นเพื่อนกับ Facebook :Thailandwakeup