กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานพื้นที่กรุงเทพมหานครเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ รวม 36 จุด เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 29 จุด รอการระบาย 7 จุด ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต นำรถกู้ภัยขนาดเล็กสนธิกำลังกับชุดเคลื่อนที่เร็วของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อบริการซ่อมรถ ลากจูงรถที่เครื่องยนต์ขัดข้อง และบริการรถรับส่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขังในเบื้องต้น
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 มิถุนายน 2559 จนถึงเช้าวันที่ 21 มิถุนายน 2559 พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนฟ้าคะนองกับฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ รวม 36 จุด เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 29 จุด รอการระบาย 7 จุด ได้แก่ เขตจตุจักร 4 จุด ถนนรัชดาภิเษก บริเวณซอยรัชดาภิเษก 32 – ธนาคารกรุงเทพ และบริเวณหน้าศาลอาญา ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าสวนจตุจักร และหน้ากรมการขนส่งทางบก เขตบึงกุ่ม 1 จุด ถนนนวมินทร์ บริเวณซอยนวมินทร์ 113 เขตวังทองหลาง 2 จุด ถนนลาดพร้าว บริเวณซอยลาดพร้าว 100 – ซอยลาดพร้าว 112 ซอยมหาดไทย – คลองเจ้าคุณสิงห์ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ประสานการปฏิบัติการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม โดยเน้นการระบายน้ำออกจากผิวการจราจร ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเร่งสูบน้ำเข้าอุโมงค์ระบายน้ำ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต นำรถกู้ภัยขนาดเล็กสนธิกำลังกับชุดเคลื่อนที่เร็วของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเช้าและบ่ายถึงค่ำ เพื่อประสานอำนวยการจราจรและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงให้บริการซ่อมรถและลากจูงรถที่เครื่องยนต์ขัดข้องกีดขวางเส้นทางจราจร พร้อมบริการรถรับส่งประชาชน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามพยากรณ์อากาศ คาดว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบเส้นทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังและมีการจราจรติดขัด พร้อมเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการจราจรท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th