กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
เนสท์เล่ ไอศกรีม เปิดศักราชปี 48 ส่งแม่ทัพคนใหม่ตอกย้ำกลยุทธ์ปฏิบัติการสีฟ้า ทุ่มงบกว่า 700 ล้านบาท ขับเคลื่อนจักรวาลสีฟ้า หลังครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 40%
เนสท์เล่ ไอศกรีม ปลื้มปิดฉากธุรกิจปี 2547 อย่างสวยงาม หลังประสบความสำเร็จสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ตามที่คาดไว้ โดยความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องถึง 2 ปีซ้อนมากกว่าร้อยละ 30 ต่อปี
นอกจากนี้ เฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 เนสท์เล่ ไอศกรีม ภายใต้การบริหารของ มร.ฟิลิป เออเบอรี แม่ทัพคนใหม่ก็ยังมีอัตราการเพิ่มของยอดขายถึงร้อยละ 30-35 ท่ามกลางการแข่งขันอย่างเข้มข้นในตลาดไอศกรีมที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 5,400 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7-10 ต่อปี ส่งผลให้ความคาดหวังในอัตราการเติบโตของธุรกิจในปี 2548 นี้จะทะลุในระดับร้อยละ 30 อีกปีหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะทำให้เนสท์เล่ ไอศกรีม ขยับส่วนแบ่งการตลาดขึ้นไปเป็นร้อยละ 42
ความสำเร็จดังกล่าว เป็นผลมาจากกลยุทธ์ “ปฏิบัติการสีฟ้า” ซึ่งมีหัวใจหลักคือการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องใน 3 เสาหลักของธุรกิจ นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ แบรนด์สินค้า และช่องทางการจัดจำหน่าย โดยในปี 2548 นี้ ภายใต้กลยุทธ์เดียวกัน เนสท์เล่ ไอศกรีม เน้นแนวคิด “ปฏิบัติการกล้า ขับเคลื่อนจักรวาลสีฟ้า”
มร. ฟิลิป เออเบอรี่ (Mr. Philippe Eberle) ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของเนสท์เล่ ไอศกรีม กล่าวว่า แนวคิด “จักรวาลสีฟ้า” เปรียบเสมือนการสร้างสรรค์จินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดให้แก่ผู้บริโภคอย่างไม่สิ้นสุด เหมือนกับอาณาเขตของจักรวาลที่ไม่มีใครรู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ใด โดยดาวดวงต่างๆ ในจักรวาลสีฟ้าของเนสท์เล่ไอศกรีมก็จะเป็นตัวแทนของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การพบเห็นแบรนด์สินค้าอย่างทั่วถึง และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นและในวงกว้าง เพราะสำหรับเนสท์เล่ ไอศกรีมแล้ว การรับประทานไอศกรีมไม่เป็นเพียงแค่ให้ผู้บริโภคได้รับความอร่อยในรสชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างสรรค์จินตนาการให้ผู้บริโภคได้รับความสนุกสนาน และความตื่นเต้นในขณะเดียวกันด้วย”
โดยนวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์ 3 ตัวหลักที่สำคัญ และเป็นตัวแทนของดวงดาวแห่งการสร้างสรรค์ ที่อยู่ภายใต้แนวความคิด “จักรวาลสีฟ้า” ประกอบด้วย เอ๊กซ์ตรีม โกลด์, สตาร์วอร์ และซันเดย์ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีจุดเด่นที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไป
เอ๊กซ์ตรีม โกลด์ (Extreme Gold) จะจับกลุ่มวัยรุ่นขึ้นไป โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ ด้วยไอศกรีมที่โคนทำด้วยช็อกโกแลตนม แตกต่างจากโคนไอศกรีมทั่วไปที่ผลิตจากขนมปังเวเฟอร์ สร้างความอร่อยสะใจกับไอศกรีมชนิดนี้ได้อย่างมีรสชาติหมดทั้งเนื้อไอศกรีมและโคน ซึ่งว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจำหน่ายไอศกรีมที่มีโคนลักษณะนี้ เอ๊กซ์ตรีม โกลด์ จึงตอบสนองจินตนาการของผู้บริโภคในเรื่องรสชาติ และความอร่อยของโคนไอศกรีมที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไอศกรีม สตาร์วอร์ (Star Wars) ที่จะให้ผู้บริโภคไม่ตกเทรนด์ ด้วยไอศกรีมที่จำลองหน้าของดาร์ท เวเดอร์ ตัวเอกในภาพยนตร์มหากาพย์การผจญภัยทางอวกาศอมตะสุดลือลั่นเรื่อง สตาร์วอร์ คือนอกจากจะได้สดชื่นกับรสชาติแปลกใหม่ของไอศกรีมแล้ว ยังสามารถตื่นเต้นเพลิดเพลินไปกับจินตนาการอวกาศของสตาร์วอร์ ภาคใหม่ที่กำลังจะมาฉายในเมืองไทยประมาณพฤษภาคมอีกด้วย
ไอศกรีม ซันเดย์ (Sundae) ถือเป็นไอศกรีมซอฟเสิร์ฟแบบกด ที่ให้ผู้บริโภคได้สนุกสนานไปกับจิตนาการของตนเองในการตกแต่งไอศกรีมตามใจชอบ ซึ่งเนสท์เล่ ไอศกรีม เป็นรายแรกที่ได้สร้างสรรค์และนำเข้าตลาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
สำหรับในปี 2548 นี้ เนสท์เล่ ไอศกรีม ได้ตั้งงบประมาณเพื่อใช้ในการส่งเสริมการตลาด และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 700 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ปฏิบัติการสีฟ้า ภายใต้แนวความคิด “ปฏิบัติการกล้า ขับเคลื่อนจักรวาลสีฟ้า” เพื่อให้กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นตัวจักรสำคัญในการต่อยอดความสำเร็จ ทั้งในด้านการขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ และขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของตลาดไอศกรีมในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
การขับเคลื่อนจักรวาลสีฟ้าซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักของปี 2548 ให้บรรลุสู่ความสำเร็จสูงสุดนั้น เนสท์เล่ ไอศกรีม ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่โดดเด่นในด้านของนวัตกรรม นอกจากนั้น การที่เปิดใจให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในธุรกิจ ด้วยการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์โดนใจผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มให้มากที่สุดก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น ผู้บริโภคสำหรับเนสท์เล่ ไอศกรีม จึงเป็นมากกว่าผู้ซื้อสินค้า แต่เป็นเสมือนทีมงานสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเราขับเคลื่อนต่อไป
นอกจากศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่ครบเครื่องและสมบูรณ์แบบแล้ว วิสัยทัศน์ของผู้บริหารก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มร.เออเบอรี่ กล่าวถึงกลยุทธ์การบริหารเนสท์เล่ ไอศกรีม เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่มีมาอย่างต่อเนื่องว่า “ที่เนสท์เล่ ไอศกรีม เราให้ความสำคัญกับ การทำงานเป็นทีมมากที่สุด เพราะเราเชื่อว่าการทำงานที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นเพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงนั้น จะเป็นเหมือนพลังผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน การฟังเพียงความคิดคนกลุ่มเดียวหรือคนเดียว จะไม่สามารถทำให้ความคิดสร้างสรรค์ก้าวไปไกลถึงขีดสุด ดังนั้น ความสำเร็จของเนสท์เล่ ไอศกรีม จึงไม่ได้เป็นความสำเร็จของใครคนใดหนึ่ง แต่เป็นความสำเร็จที่ทีมงานทุกคนได้ภูมิใจร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ในฐานะกัปตันของเรือที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและความท้าทายลำนี้ การตัดสินใจที่เฉียบขาด ตลอดจนการสนับสนุน และให้คำแนะนำทีมงานอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน”
ในปีนี้ เนสท์เล่ ไอศกรีม ยังคงมุ่งมั่นรุกตลาดและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสุดพิเศษและแปลกใหม่ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดต่อผู้บริโภค พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างสรรค์และกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยประเดิมปี 2548 กับผู้นำทางด้านร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) อย่างแฟมิลี่มาร์ท (Family Mart) และยังคงรักษาความเป็นผู้นำในช่องทางการจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในปั๊มน้ำมัน อาทิ สตาร์มาร์ท ร้านซีเล็กซ์ เลมอนกรีน โลตัส เอ็กซ์เพรส และร้านเอฟรี่เดย์ เป็นต้น โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดในช่องทางดังกล่าวประมาณร้อยละ 75-80 มาเป็นปีที่สองแล้ว นอกจากนี้ เนสท์เล่ ไอศกรีม ยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในช่องทางการจัดจำหน่ายในสวนสนุกมากกว่าร้อยละ 95 อาทิ ดรีมเวิลด์ สวนสามพราน ซาฟารีเวิร์ล พัทยาปาร์ค พร้อมทั้งยังขยายช่องทางการขายทางรถสามล้อ โมเดิร์นเทรดและคอนวีเนี่ยนสโตร์ สถานศึกษา ตลอดจนผู้แทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั่วประเทศ จึงส่งผลให้เนสท์เล่ ไอศกรีมมีฐานการจำหน่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน
ในฐานะที่เป็นบริษัทไอศกรีมที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในประเทศไทย เนสท์เล่ ไอศกรีม ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมและความสนุกสนาน เพื่อความสุขของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการขยายตลาดไอศกรีมโดยรวม เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาบริโภคไอศกรีมมากขึ้น ตลอดจนการสานต่อความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้เนสท์เล่ ไอศกรีม ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการตลาดไอศกรีมในประเทศไทยต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สลิลลา เศวตเศรนี
บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด
โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 335
Fax. 0-2651 9649
E-mail: slilla@prassociates.net
ณัฐวดี วงษ์สุนทร
ฝ่ายสื่อสารการตลาด เนสท์เล่ ไอศกรีมและผลิตภัณฑ์แช่เย็น
โทรศัพท์ 0-2648-4858, 0-2648-4800 ต่อ 4858, 4849
Fax: 0-2648 8978
E-mail: Natwadee.Wongsuntorn@th.nestle.com--จบ--