กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--IR network
ก.ล.ต.ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง "บิสซิเนสอะไลเม้นท์" (BIZ) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เน้นในเรื่องการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษาเป็นหลัก มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทย เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 100 ล้านหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ด้านผู้บริหาร "สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์" เตรียมนำเงินที่ได้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ที่ปรึกษาทางการเงินมือทองจากค่าย "แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" (APM) คาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงไตรมาส 3/59นี้
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BIZ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ที่เตรียมจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50บาท/หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ คาดว่าจะนำหุ้น BIZ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงไตรมาส 3/2559 นี้
"มั่นใจว่า "บิสซิเนสอะไลเม้นท์" จะเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่อีกบริษัท ที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษามะเร็งที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 15 ปี และมีจุดแข็งในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะเครื่องมือบำบัดรักษาโรคมะเร็งอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์และส่วนควบต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปรับปรุงสถานที่เพื่อให้เหมาะสมในการติดตั้งเครื่องมือสำหรับการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ตลอดจนการให้บริการหลังการขายในการบำรุงรักษาเครื่องให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งจัดเป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของไทย ขณะเดียวกันผู้บริหารยังมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล พร้อมที่จะนำองค์กรเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง" นายสมภพ กล่าว
ด้านนายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BIZ) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น สำหรับนำไปใช้รองรับการรับงานใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากในปัจจุบันผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งโรงพยาบาลที่มีเครื่องฉายรังสีส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ หรือโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยแพทย์เท่านั้น จึงทำให้เครื่องฉายรังสีมีจำนวนไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และโอกาสที่ผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพยังมีไม่เพียงพอหรือหากเข้าถึงได้อาจต้องรอคิวเป็นระยะเวลานาน
"BIZ เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายฐานลูกค้าโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้บริการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นที่มาของการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต" นายสมพงษ์ กล่าวในที่สุด