กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างรุนแรง อังกฤษจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งออกหดตัวลง สถาบันการเงินย้ายไปอียูมากขึ้น ความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของลอนดอนจะเสื่อมลง เศรษฐกิจอียูก็จะอ่อนแอตัวลงด้วย เสนอให้ธนาคารกลางทั้ง Fed ECB BOJ แทรกแซงตลาดการเงินโลกเพื่อลดความผันผวน ประคับประคองตลาดการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม ขณะที่กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเพิ่มขึ้นในยุโรปแม้นกระแสเสรีนิยมและสังคมนิยมประชาธิปไตยจะยังมีบทบาทอยู่ก็ตาม นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ภูมิภาคนิยมไร้พรมแดนจะถูกท้าทายโดยกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นอธิปไตยทางเศรษฐกิจเหนือความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาค การที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษลาออกจะยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมืองและสิ่งนี้อาจจะเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอียูในระยะต่อไป
เสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์เรียกประชุมฉุกเฉินออกมาตรการลดความผันผวนในตลาดการเงิน ส่วนภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงผลกระทบยังไม่มากในระยะสั้นและมีความไม่แน่นอนสูง ระยะต่อไปเตือนรัฐบาลไทยเตรียมรับมือวิกฤตทุนนิยมโลกครั้งใหม่หลัง Brexit
กระแสเงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทุนขนาดใหญ่ของไทยจะไหลออกไปลงทุนในอียูและสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรและอียูจะทรุดตัวลง
ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง ผลกระทบจาก BREXIT (อังกฤษออกจากอียู) จะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างมีนัยยสำคัญทั้งต่อตลาดการเงิน ภาคเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจจริงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่ขณะเดียวกันย่อมเกิดโอกาสเพิ่มขึ้นหากรัฐบาลสามารถวางยุทธศาสตร์อย่างเหมาะสมและริเริ่มเปิดการเจรจาการค้าและการลงทุนกับอังกฤษเป็นประเทศแรกๆ ข้อตกลงการค้าหลายอย่างของอียูจะไม่ถูกบังคับกับอังกฤษ ผลกระทบ BREXIT (อังกฤษออกจากอียู) เงินปอนด์อาจทรุดตัวลงมากกว่า 20-30% หลังปรับตัวอ่อนค่าแล้วกว่า 10% ค่าเงินยูโรน่าจะอ่อนค่าลงไม่ต่ำกว่า 15-20% ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างรุนแรง คาดว่าตลาดหุ้นยุโรปอาจปรับตัวลงโดยเฉลี่ยได้อีกไม่ต่ำกว่า 20-30% หลังจากบางตลาดอย่างตลาดหุ้นเยอรมัน DAX ปรับตัวลงไปแล้วกว่า 10% อังกฤษจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างแน่นอน ส่งออกหดตัวลง สถาบันการเงินย้ายไปอียูมากขึ้น ความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของลอนดอนจะเสื่อมลง และนำไปสู่การล่มสลายและแยกประเทศของ Scotland และ Northern Ireland จาก
สหราชอาณาจักร เศรษฐกิจอียูก็จะอ่อนแอตัวลงด้วย เสนอให้ธนาคารกลางทั้ง Fed ECB BOJ แทรกแซงตลาดการเงินโลกเพื่อลดความผันผวน ประคับประคองตลาดการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม ขณะที่กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเพิ่มขึ้นในยุโรปแม้นกระแสเสรีนิยมและสังคมนิยมประชาธิปไตยจะยังมีบทบาทอยู่ก็ตาม นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ภูมิภาคนิยมไร้พรมแดนจะถูกท้าทายโดยกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นอธิปไตยทางเศรษฐกิจเหนือความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาค
ขณะที่กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเพิ่มขึ้นในยุโรปแม้นกระแสเสรีนิยมและสังคมนิยมประชาธิปไตยจะยังมีบทบาทอยู่ก็ตาม นอกจากนี้โลกาภิวัตน์ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ภูมิภาคนิยมไร้พรมแดนจะถูกท้าทายโดยกระแสชาตินิยมทางเศรษฐกิจที่เน้นอธิปไตยทางเศรษฐกิจเหนือความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกันของภูมิภาค การที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษลาออกจะยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมืองและสิ่งนี้อาจจะเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอียูในระยะต่อไป ล้วนทั้งกระตุ้นให้ฝ่ายค้านและผู้ไม่สนับสนุนอียูในยุโรปเรียกร้องให้ทำประชามติออกจากอียูเพิ่มเติมอีก เป็นกระแสนี้จะถูกครอบงำโดยเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ทางการเมืองของพวกอนุรักษ์นิยมชาตินิยมขวาจัดมากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและคุณภาพที่ดีขึ้นของประชาชนส่วนใหญ่ และ จะสร้างความยากลำบากในการเจรจาทางการค้าและการลงทุนไปอีกนาน ความคืบหน้าและความก้าวหน้าของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจจะถูกชะลอลง
ดร. อนุสรณ์ คาดการณ์อีกว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้อีก 20-30% ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก สกุลอาเซียนและเงินบาท แต่การแข็งค่าจะถูกจำกัดในระดับหนึ่งจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก แต่กระแสเงินร้อนระยะสั้นจะไหลเข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามากขึ้น และไหลออกจากตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันจะทรุดตัวลงพร้อมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง
อังกฤษออกจากอียูจะผลกระทบต่อตลาดการเงินจะชัดเจนและรุนแรงกว่าภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการค้าในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวแล้วตลาดการเงินจะปรับตัวได้และสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่เกิดขึ้น โดยที่ในระยะยาวจะมีผลลบต่อระบบการค้าการลงทุนในระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ สั่นคลอนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Integration) กระตุ้นให้กระแสการต่อต้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ต่อต้านทุนนิยมโลกาภิวัตน์เติบโตขึ้น การค้าการลงทุนโลกจะเติบโตลดลงพร้อมกับกำแพงภาษีการค้าการลงทุนที่อาจสูงขึ้น ถือเป็น ชัยชนะยกแรกของพวกที่มีสนับสนุนแนวคิดแบบลัทธิกีดกันทางการค้า (Trade Protectionism)
ดร. อนุสรณ์ เสนออีกว่า การลงประชามติเรื่อง Breexit ในอังกฤษ เป็นบทเรียนต่อไทยว่า การลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญว่า เราสามารถตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศอย่างสันติวิธีด้วยกระบวนการการมีส่วนร่วมและวิธีการทางประชาธิปไตย ควรเปิดให้มีความคิดเห็นอย่างกว้างขวางอย่าปิดกั้นแต่ต้องควบคุมไม่ให้มีการปลุกกระแสที่สร้างความเกลียดชังกัน มีการเสนอความคิดเห็นแบบสร้างสรรค์ ใช้เหตุผลในการหักล้างกัน หากเกิดความรุนแรงขึ้นในกรณีของไทยย่อมไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในการลงทุน และเมื่อผลออกมาเช่นใดต้องเคารพเสียงข้างมาก
กรณีอังกฤษออกจากอียู ข้อตกลงการค้าหลายอย่างของอียูจะไม่ถูกบังคับกับอังกฤษ เป็นโอกาสที่ไทยอาจเริ่มต้นเจรจากรอบการค้าและการลงทุนใหม่กับอังกฤษ แม้นไทยส่งออกไปอังกฤษประมาณ 2% แต่ส่งออกไปอียูคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10-11% อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษและอียูจะชะลอตัวลงกว่าเดิม ประเมินมีผลกระทบต่อเนื่องยาวนานและทำให้เสถียรภาพของระบบอียูมีปัญหา หลายประเทศอาจเกิดการเรียกร้องให้ออกจากอียู แม้นประเทศไทยส่งออกไปประเทศอังกฤษ เพียงแค่ 2% แต่มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมการส่งออกต่อเนื่องไปยังอียูมากโดยสินค้าส่งออกหลัก คือ ไก่แปรรูป อาหารประเภทต่างๆ อัญมณีเครื่องประดับ เสื้อผ้าเครื่องหนัง รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น การที่อังกฤษอยู่ภายใต้ระบบของอียูย่อมส่งผลดีต่อการขยายตัวของการค้าและการลงทุนต่อไทยมากกว่า
ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ในฐานะอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์เรียกประชุมฉุกเฉินออกมาตรการลดความผันผวนในตลาดการเงินโดยด่วน ส่วนภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงผลกระทบยังไม่มากในระยะสั้นและมีความไม่แน่นอนสูง ระยะต่อไปเตือนรัฐบาลไทยเตรียมรับมือวิกฤตทุนนิยมโลกครั้งใหม่หลัง Brexit ซึ่งจะกระทบการค้า การส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว และ ความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่รุนแรง มอบในแง่ดี ข้อตกลงทางการค้าและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่างๆจะมีการดำเนินการอย่างระมัดระวังและฟังเสียงประชาชนมากขึ้น
กระแสเงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทุนขนาดใหญ่ของไทยจะไหลออกไปลงทุนในอียูและสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรและอียูจะทรุดตัวลง ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการเงินได้วางยุทธศาสตร์และบริหารจัดการสภาวะดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวมด้วย