กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--ปตท.
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทผู้ผลิตแหล่งก๊าซฯ เจดีเอ ประกาศปิดซ่อมบำรุงระหว่างวันที่ 20 – 31 สิงหาคม 2559 รวม 12 วัน เพื่อรักษาความสามารถในการจ่ายก๊าซฯ ตามสัญญา ทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติในระบบขาดหายไป ส่งผลให้สถานีก๊าซธรรมชาติหลักจะนะ จ.สงขลา ไม่สามารถผลิตก๊าซเอ็นจีวีได้ตามปกติ และกระทบต่อการให้บริการของสถานีบริการเติมก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 14 แห่ง ครอบคลุม 3 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี 4 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช 5 แห่ง และ จ.สงขลา 5 แห่ง ซึ่งมีปริมาณการใช้ก๊าซฯ รวมเฉลี่ยอยู่ที่ 140 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ ปตท. เตรียมแผนจัดสรรก๊าซฯ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้รถเอ็นจีวีในพื้นที่ดังกล่าวได้ในปริมาณ 55 ตันต่อวัน ตลอดช่วงระยะเวลา 10 วัน (วันที่ 20 – 29 สิงหาคม 2559) ประกอบด้วย ก๊าซฯ จากสถานีก๊าซธรรมชาติหลักพื้นที่ภาคกลางที่จะขนส่งลงไปยังภาคใต้ ซึ่งด้วยข้อจำกัดระยะทางขนส่งที่ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาขนส่งกว่า 25 ชั่วโมงต่อเที่ยว ทำให้สามารถจัดส่งได้ในปริมาณ 35 ตันต่อวัน และก๊าซฯ ที่ขนส่งฯ ไว้ล่วงหน้าพร้อมจ่ายในปริมาณ 20 ตันต่อวัน ทั้งนี้ ปตท. คาดว่าจะสามารถจ่ายก๊าซฯ ที่สำรองไว้ในท่อส่งก๊าซฯ (Line Pack) ให้กับสถานีบริการเอ็นจีวีได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไป
"ปตท. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และใคร่ขอความร่วมมือผู้ใช้รถเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างและผู้ที่เดินทางในเส้นทางดังกล่าว โปรดวางแผนการใช้เชื้อเพลิงล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการใช้รถตลอดช่วงการหยุดจ่ายก๊าซฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันที่ 20 – 29 สิงหาคม 2559 หรือ 10 วันแรก ขอความอนุเคราะห์กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่มีเชื้อเพลิง 2 ระบบ (น้ำมันหรือก๊าซเอ็นจีวี) โปรดเลี่ยงการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรถขนส่ง โปรดเร่งจัดส่งสินค้าที่จำเป็นล่วงหน้าก่อนการหยุดจ่ายก๊าซฯ หรือโปรดใช้รถบรรทุกและรถหัวลากที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงแทนการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งเมื่อผู้ผลิตดำเนินการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติแล้วเสร็จ ปตท. จะเร่งจัดส่งก๊าซฯ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้รถเอ็นจีวีตามปกติโดยเร็วที่สุด" นายสมเกียรติฯ กล่าวเสริมในตอนท้าย