กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ตาก และเชียงใหม่ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน คอสะพานชำรุด และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเตือนหลายพื้นที่ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดย ปภ. ได้ประสานจังหวัดเสี่ยงภัยติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้พื้นที่ภาคเหนือ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก ในพื้นที่อำเภอพบพระ น้ำท่วมถนนสาย แม่สอด – อุ้มผาง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 42 หมู่ที่ 8 ตำบลช่องแคบ และหลักกิโลเมตรที่ 47 – 48 บ้านร่มเกล้าสหมิตร ตำบลคีรีราษฎร์ ปัจจุบันระดับลดลง สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่อำเภอแม่วาง น้ำท่วมถนนสายหลักภายในหมู่บ้านแม่มูด ตำบลแม่วิน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน คอสะพานชำรุด พื้นที่การเกษตรได้รับ ความเสียหาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร สำหรับการให้ความช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้เข้าสำรวจความเสียหายและแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ระยะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เลย หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมืออันตราย ที่อาจเกิดขึ้นจากฝนตกหนักและปริมาณฝนสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลบริเวณฝั่งอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปภ. ได้จัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนกรณีน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ให้บริการซ่อมรถ ลากจูงกรณีรถเสียกีดขวางเส้นทางจราจรในช่วงน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยการจราจรและแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th