กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผนึกกำลังกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกลุ่มรักลูก (บริษัทอาร์แอลจี จำกัด) เปิดตัวโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) จุดประกายพ่อแม่ และผู้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่วัย 3-12 ปีที่แข็งแรงโดยการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยสำคัญ ได้แก่ การกินอาหารให้หลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เลือกดื่มน้ำเปล่า และขยันขยับ เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์ "มื้ออาหารของฮีโร่" (Hero Meal) เครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่พึงประสงค์เหล่านี้ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน
โดยในปีแรกของโครงการฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพฤติกรรมเด็กชั้นนำของไทย ที่ร่วมให้ความรู้และประสบการณ์ในการขับเคลื่อนการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยที่ถูกต้องแก่เยาวชนได้แก่
· ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ
· นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
· ดร. ชนิศา ตันติเฉลิม ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
· ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
· ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล หัวหน้าภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหารคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
· ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติ สรณเจริญพงศ์ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
· มร.วิลเมนต์ เหลียง นายกสมาคมของสมาคมเชฟโลก
· เชฟดวงพร ทรงวิศวะ เจ้าของรางวัลเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2012
· เชฟอภินันท์ เศวตวรรณกุล เชฟผู้เปี่ยมประสบการณ์
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ กล่าวว่า "สถานการณ์สุขภาพของเด็กไทยตอนนี้นับว่าน่าเป็นห่วงมาก จากสถิติล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าร้อยละ 7-10 ของเด็กไทยมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน ขณะที่ร้อยละ 12 มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือเป็น โรคอ้วน แม้ว่าจะมีการริเริ่มโครงการต่างๆ มากมายออกมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการนมโรงเรียน โครงการอาหารกลางวันนักเรียน แต่ภาวะทุพโภชนาการในเด็กก็ยังคงอยู่ และทวีความรุนแรงขึ้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ติดอันดับการมีอัตราเพิ่มของคนเป็นโรคอ้วนมากขึ้นอย่างชัดเจน รากเหง้าของปัญหานี้คือสุขนิสัยต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เด็กๆ จำนวนมากรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ รับประทานผักผลไม้น้อย ดื่มน้ำเปล่าน้อยเกินไป และทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเพียงวันละไม่เกิน 45-60 นาทีเท่านั้น"
"การแก้ไขปัญหาเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนนี้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาระดับชาติ การจัดการกับปัญหานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน พ่อแม่ หรือผู้ดูแลเด็กทุกคนต้องช่วยกัน พวกเราทุกคนต้องร่วมผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยที่ดีให้เด็กตั้งแต่วัยเยาว์ เริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น ดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานให้น้อยลง และทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น" ศ. นพ. ไกรสิทธิ์กล่าว
นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า "สถานการณ์สุขภาพของเด็กไทยที่เราเผชิญอยู่นี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกก็ระดมกำลังเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน เนสท์เล่ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีมานานกว่า 150 ปี มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ และถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหานี้ในทันที เราเชื่อว่าการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีอย่างยั่งยืนไปตลอดชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ในปีแรกของการดำเนินโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) จึงเน้นที่การปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีในเด็กอายุ 3-5 ปี"
นางออดรีย์กล่าวเสริมว่า "เนสท์เล่ขอขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่ได้ร่วมกันทำให้โครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) เกิดขึ้น เราเชื่อว่าโครงการนี้จะจุดประกายการขับเคลื่อนสังคมให้ร่วมกันดูแลเยาวชนไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้แข็งแรง สุขภาพของเด็กไทยอยู่ในมือของพวกเรา ขอเชิญชวนทุกท่านมารวมพลังกันเพื่อเด็กสุขภาพดี เพื่ออนาคตที่ดีของสังคมไทย"
นางกนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เนสท์เล่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรจากหลายภาคส่วนในการศึกษาปัญหาและระบุ 3 สุขนิสัยที่เราต้องปลูกฝังให้เด็กทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ได้แก่
1. เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีความหลากหลาย และเพิ่มปริมาณผักผลไม้
2. เลือกดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดให้มากขึ้น
3. เลือกที่จะขยันขยับ ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น เพื่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นางกนกทิพย์กล่าวเสริมว่า "เนสท์เล่และพันธมิตรได้สร้างสรรค์เครื่องมือ "มื้ออาหารของฮีโร่ (Hero Meal)" ที่สนุกและกระตุ้นให้เด็กๆ อยากใช้ อยากร่วมมือ ประกอบด้วย ถาดฮีโร่ ถ้วยฮีโร่ เมนูฮีโร่ สมุดฮีโร่พร้อมสติ๊กเกอร์ และข้อมูลสร้างฮีโร่ เพื่อช่วยให้พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ดี กระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่การมีสุขภาพดีของเด็กได้ง่ายๆ กล่าวคือ
ถาดและถ้วยฮีโร่เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นและสนุกกับการรับประทานอาหาร ขณะเดียวกันก็ช่วยให้พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กสามารถกำหนดอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมแก่เด็กในทุกมื้อ
เมนูฮีโร่เป็นเมนูที่เชฟชั้นนำของไทยหลายท่านร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น ให้เป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปรุงง่ายจากวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงที่หาได้ไม่ยาก ราคาไม่แพง และเด็กๆ ชอบ
สมุดและสติ๊กเกอร์ฮีโร่ เป็นเครื่องมือในการให้รางวัลแก่เด็ก พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือสำหรับพ่อแม่และผู้ดูแลเด็กในการติดตามการสร้างพฤติกรรมสุขภาพของเด็ก
ข้อมูลสร้างฮีโร่เปน็น็นข้อมูลอิงหลักวิชาการที่พัฒนาขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็ก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้และเทคนิคแก่พ่อแม่ในการปลูกฝังพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีให้กับเด็กๆ ในรูปแบบที่สนุก และประยุกต์ใช้ได้ง่าย โดยครอบคลุม 3 เรื่องหลักคือ เมนูสร้างสรรค์ การพัฒนาพฤติกรรมเด็ก และโภชนาการ ซึ่งเผยแพร่ทางFacebook.com/U4HKThailand"
นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล กล่าวถึงโครงการฯ ว่า "โครงการรวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี (United for Healthier Kids) ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยมีบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ระดมพลังจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ และองค์กรเอกชน เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพอนามัยที่ดี ผ่านกระบวนการรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดตามมาจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมของเด็กๆ ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าโครงการฯ นี้มีประโยชน์ทั้งกับเด็ก ครอบครัว รวมถึงประเทศชาติของเรา เพราะพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่ได้ส่งผลด้านสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของวินัยอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย"
นอกจากนี้ ดร. ชนิศา ตันติเฉลิม ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เป็นปัญหาของเด็กไทยว่า "หลักๆ เลยคือเด็กไทยมักรับประทานอาหารไม่หลากหลาย ทำให้ขาดสารอาหาร และที่สำคัญคือดื่มน้ำน้อย โครงการฯ นี้จึงเป็นการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ ให้เป็นไปในเชิงบวก รวมทั้งเรื่องของการส่งเสริมให้พ่อแม่และครูอาจารย์มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เด็กรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนตามหลักสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวคิด "มื้ออาหารของฮีโร่" เป็นตัวแทนของผู้ที่มีพลัง มาเติมพลังและจูงใจเด็กๆให้กินอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ ซึ่งจะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีในอนาคต"
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "การสร้างวินัยในการรับประทานอาหารให้เด็กๆนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะอาหารที่ดีเปรียบเหมือนเวลาเราปลูกต้นไม้แล้วใส่ปุ๋ยดี ใช้ดินดี ทำให้ต้นไม้นั้นเติบโตแข็งแรง เด็กก็เช่นกัน หากเขาได้รับอาหารที่ดีถูกต้องตามหลักโภชนาการตั้งแต่เด็ก จะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง มีพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสม ซึ่งจะเสริมส่งให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้"
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติ สรณเจริญพงศ์ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงโครงการฯ ว่า "โครงการนี้เป็นมากกว่าการลงทุนที่จะหวังผลกำไร เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ จากการที่ผมเดินทางมาเกือบรอบโลกในฐานะนักวิจัยด้านโภชนาการ ทำให้เห็นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีที่อยู่รอๆ ตัวเรื่องอาหาร แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือระบบอาหารกลางวันของประเทศญี่ปุ่น ที่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะเห็นว่าอาหารกลางวันเด็กไทยมีระบบการจัดการที่ดีใกล้เคียงกัน บ้านเราอุดมสมบูรณ์กว่าหลายประเทศ เงินไม่ใช่ตัวหลักแต่ใจต้องมาก่อน ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ทีละน้อยหลังจากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี (United for Healthier Kids) ที่จะช่วยกันผลักดันทำสิ่งดีๆ ให้กับเด็กๆ เพราะอยากเห็นเด็กไทยมีสุขภาพดี และเป็นคนดีที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติของเราต่อไป"
สำหรับ เชฟดวงพร ทรงวิศวะ เจ้าของรางวัลเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2012 หนึ่งในเชฟที่ร่วมสร้างสรรค์เมนูฮีโร่สำหรับโครงการฯ กล่าวว่า "สุขภาพของลูกนั้นสำคัญทั้งกายและใจ เมื่อลูกโตขึ้นจะเป็นอย่างไรก็เพราะฝีมือของพ่อและแม่วันนี้เลยค่ะ ถ้าอยากให้ลูกของเราโตไปแล้วมีความสุข เราก็ต้องดูแลเค้าทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจตั้งแต่วันนี้ เพราะเป็นรากฐานในการใช้ชีวิตของเค้าต่อไปในอนาคต ซึ่งการดูแลด้านสุขภาพของลูก ทำได้โดยการเตรียมอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่เด็ก เมนูที่โบว์และเชฟท่านอื่นๆ ช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้นมานั้น เป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมสำหรับเด็กวัย 3-5 ปี นอกจากนี้ยังปรุงได้ง่าย และวัตถุดิบราคาไม่แพง คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ดูแลเด็กสามารถนำไปปรับสูตรให้เข้ากับสิ่งที่ลูกชอบได้ค่ะ"
ในปีแรก โครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) ได้ระดมความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยเริ่มต้นที่4 โรงเรียนนำร่อง คือโรงเรียนอรรถวิทย์ โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ โรงเรียนวัดหนัง และโรงเรียนวัดปทุมวนาราม โดยมีการนำเครื่องมือต่างๆ ไปทดลองใช้กับนักเรียนอนุบาลอายุระหว่าง 3-5 ปีที่เข้าร่วมโครงการฯ ราว 800 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในระหว่างนั้นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะติดตามผล และประเมินปัจจัยความสำเร็จ ตลอดจนสรุปข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาพัฒนาและขยายผลโครงการฯ ในปีต่อไป
ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) ได้ที่Facebook.com/U4HKThailand หรือค้นหา United for Healthier Kids TH ผ่าน Facebook ความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพเด็กไทยจะเกิดขึ้นได้จริง หากเราร่วมมือกัน