กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. 59 ที่สำนักงานสมาคมฯ ตึกชาญอิสสระ 2 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ และ พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ ประธานบริหาร บริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด มอบเงินค่าตอบแทนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในศึกฟุตบอลไทยลีก และดิวิชั่น 1 ประจำเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยมี นายพีระพล ภูอุดม เหรัญญิกกองทุนสวัสดิการผู้ตัดสิน เป็นผู้รับมอบเพื่อไปดำเนินการจ่ายให้กับกรรมการผู้ตัดสินต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทพีแอลที ได้รับเอกสารการทำหน้าที่ผู้ตัดสินในเดือนเมษายนครบถ้วนเมื่อวานนี้ บริษัทพีแอลที จึงได้ดำเนินการมอบเงินให้กับกองทุนสวัสดิการผู้ตัดสินทันทีในวันนี้ เพราะฉะนั้นขอให้ผู้ตัดสินทุกท่านที่ลงทำหน้าที่ช่วยดำเนินการเรื่องเอกสาร เพื่อที่ทางบริษัทพีแอลทีจะได้ดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นายกสมาคมฯ ยังได้กล่าวถึง การพัฒนากรรมการผู้ตัดสินว่าขณะนี้ การแก้ไขปัญหาเรื่องข้อครหาของกรรมการในการทำหน้าที่ผู้ตัดสิน และผู้ช่วยผู้ตัดสิน ไม่เป็นที่ยอมรับของสโมสรต่างๆ ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามาตลอด โดยเฉพาะแมตช์สำคัญๆ จะมีการกล่าวอ้างว่าการทำหน้าที่ไม่มีมาตรฐานสากลพอ เพราะฉะนั้นในการแก้ปัญหาซึ่งทางสมาคมได้มีการวางแผนแก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นก็คือการที่สมาคมร้องขอไปยังเอเอฟซี และ เจลีก เพื่อให้ส่งผู้ตัดสินเข้ามาช่วยทำหน้าที่ในแมตช์สำคัญๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน
ขณะที่ การแก้ไขปัญหาในระยะยาว เรามีการเปิดการอบรมให้กับกรรมการผู้ตัดสินโดยมีวิทยากรของเอเอฟซีเข้ามาให้ความรู้ ทั้ง ภาควิชาการ และภาคปฎิบัติ นอกจากนี้ ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เข้ามาช่วยในการนำเทปมาดูว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมีความผิดพลาด หรือต้องแก้ไขปรับปรุงในจุดไหนบ้าง ซึ่งในอนาคตสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีการเซ็นต์ MOU เพื่อร่วมมือกันพัฒนาวงการผู้ตัดสิน ทั้งนี้ การพัฒนาผู้ตัดสินมันต้องใช้เวลา เราไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาแค่เดือนสองเดือน อาจต้องใช้เวลาเป็นปีในการสร้างผู้ตัดสินรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมา ในอนาคตถ้าเรามีผู้ตัดสินรุ่นใหม่ๆ ก้าวขึ้นมามากพอ เราจะสามารถเลือกผู้ตัดสินที่มีคุณภาพ มีความพร้อม ให้ลงทำหน้าที่ได้ และต่อไปผู้ตัดสินที่ผ่านการอบรมหลักสูตรต่างๆ ของสมาคมแล้ว จะมีการออกหนังสือรับรองให้กับผู้ตัดสิน ซึ่งใครไม่มีก็จะไม่ได้ลงทำหน้าที่ ขณะที่ผู้ตัดสินที่มีใบรับรอง แต่ทำหน้าที่แล้วเกิดข้อสงสัย หรือข้อครหา บ่อยครั้งก็อาจโดนยึดหนังสือรับรอง และหมดสิทธิ์ทำหน้าที่ได้
สำหรับ การจ่ายเงินให้กับกรรมการผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในเดือนเมษายน แบ่งเป็นผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมไทยลีก รวมเงินทั้งหมด 1,258,090 บาทถ้วน และดิวิชั่น 1 รวมเงินทั้งหมด 483,448 บาท ส่วนเงินค่าตอบแทนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเดือนพฤษภาคมนั้น ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมเอกสารต่างๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นและทำการส่งมอบให้กับผู้ตัดสินได้เร็วๆ นี้ ทั้งนี้ในอนาคตจะมีการใช้ระบบการโอนเข้าบัญชีโดยตรง เพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น