กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--
โลกแห่งการเรียนรู้ของเจ้าตัวน้อย เริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาแล้ว ผสานความรัก การเอาใจใส่เลี้ยงดูของพ่อ-แม่ที่ได้เฝ้าบ่มเพาะหล่อหลอมต้นกล้าน้อยด้วย'พลังความคิด (Power of Thinking)'พร้อมพัฒนาฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสู่จินตนาการแห่งการสร้างสรรค์ โดยผ่านการเล่น การทำกิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี/การเคลื่อนไหว และการพูดคุยซักถามเพื่อพัฒนาสมองทุกส่วนอย่างเต็มศักยภาพ
โคกุมาไค (Kogumakai) สถาบันพัฒนาความคิดจากประเทศญี่ปุ่น โดย ยาสุโยชิ คุโนะ ประธานและผู้ก่อตั้งสถาบันแห่งนี้ ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการศึกษาระดับปฐมวัยมามากมายกว่า 44 ปี โดยสร้างสรรค์การศึกษาสมัยใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อว่าเด็กสามารถที่จะ 'คิดเป็น' ไปพร้อมกับ'การเติบโต' ได้อย่างมีเป้าหมาย "ผมได้ศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับการศึกษาพื้นฐานที่เหมาะกับเด็กในแต่ละช่วงอายุ โดยมุ่งเน้นไปที่เด็กเล็กก่อนวัยเรียน เพราะทักษะการเรียนรู้และการคิดนั้นสำคัญมากและมีบทบาทมากที่สุดของเด็กวัย 3 - 6ปี
จริงๆ แล้วเด็กมีความคิดที่เป็นเรื่องราวเมื่ออายุ 1 ขวบ และการพัฒนาความคิดจะสมบูรณ์เมื่ออายุ 2 ขวบขึ้นไป ดั้งนั้นเราจึงรวบรวมพื้นฐานสิ่งที่เด็กวัย 3-6 ปี ควรรู้และเข้าใจไว้ทั้งหมด โดยใช้วิธีการสอน (KUNO Method) ที่เป็นรูปแบบเฉพาะไม่เหมือนใคร และได้ผ่านการปฏิบัติจริงในห้องเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว โดยผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน Kogumakaiมีสาขาต่างประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี อินเดีย เวียดนาม และประเทศไทย" คุโนะบอกเล่าเรื่องราวที่มาของสถาบัน โคกุมาไค ที่ก่อตั้งมากว่า 30 ปีในประเทศญี่ปุ่น "สำหรับวิธีการสอนนั้น จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ดึงดูดเด็กๆ ไปยังสิ่งต่างๆ และตรวจสอบความเข้าใจโดยการสนทนาโต้ตอบ ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะทำให้เด็กๆ สามารถค้นพบความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง นั่นก็คือการสอนจากประสบการณ์จริง ลองผิดลองถูกจากการเล่นเพื่อหาคำตอบและทำความเข้าใจอย่างแท้จริง ด้วยการเรียนรู้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งจะทำให้เด็กเริ่มรู้จักการคิดและเข้าใจเหตุที่มีผลตามมา เป็นการคิดแบบมีตรรกะเข้าใจความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ รอบตัว รู้จักการจำแนกหมวดหมู่เข้าใจการเรียงลำดับ รู้จักวันเวลาและเข้าใจความหมายของอดีต ปัจจุบันอนาคต สามารถฟังและจับใจความสำคัญ ตอบคำถามและคิดหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง"
ณิษฐ์ฐะกาญจน์ พรหมสาขา ณ สกลนคร กรรมการผู้จัดการ สถาบันโคกุมาไค ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "เราเห็นเด็กเล็กๆ ในประเทศไทยไปเรียนพิเศษเพื่อติวสอบเข้าโรงเรียนประถมชื่อดังมากมาย เคยได้เห็นข้อสอบและรู้สึกว่า เป็นพื้นฐานที่ดีมากที่เด็กๆ สามารถหาคำตอบแบบนี้ได้ แต่เรารู้ดีว่าการจะให้เด็กๆ คิดเป็น และออกมาเป็นคำตอบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเพียงทำแบบฝึกหัดจากกระดาษ บางทีเด็กสามารถตอบได้ถูกเพียงเพราะเค้าจำคำตอบได้เท่านั้น เมื่อเราพบวิธีแบบโคกุมะของอาจารย์คุโนะ เราพบว่ามีวิธีที่อ่อนโยนต่อหัวใจเด็กๆ ที่สามารถสอนพวกเขาให้มีพื้นฐานความคิดอย่างเป็นตรรกะได้ดี รวมถึงเป็นการสร้างพื้นฐานในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตจริงของพวกเขาด้วย การเรียนของเราจะไม่เน้นการอัดข้อมูลให้เด็กจดจำ แต่จะให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์จริง มีของเล่นและอุปกรณ์มากมายที่ทำให้เด็กๆเห็นภาพและคิดหาคำตอบได้เอง รวมถึงการมีคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดตลอดเวลา เพื่อให้เด็กสามารถคิดอย่างมีระบบ มีขั้นตอน จนออกมาเป็นคำตอบด้วยตัวของเค้าเอง
พูดง่ายๆ คือโจทย์ต่างๆ จะคล้ายกับข้อสอบเข้าตามโรงเรียนประถมต่างๆ แต่วิธีสอนสนุก และมีขั้นตอนในการเรียนที่ชัดเจน เราสอนผ่านการเล่นก็จริง แต่เป็นการเล่นโดยมีพื้นฐานของอุปกรณ์และหลักสูตรที่ผ่านการสั่งสมประสบการณ์และเห็นผลลัพท์มาเป็นเวลากว่า 30 ปี
...เราเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่และทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กๆ ทราบดีว่า เราควรเตรียมความพร้อมลูกในหลายๆด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความคิด สติปัญญา และเชื่อว่าเกือบทุกท่านน่าจะเห็นด้วยกับเราที่ว่า การเรียนรู้พื้นฐานสำคัญเพื่อคิดวิเคราะห์โดยผ่านการเล่นอย่างมีความสุข ช่วยสร้างผู้ใหญ่ที่ไม่เพียงแต่เก่งเท่านั้น แต่ยังเป็นคนดี และที่สำคัญที่สุดคือ เขาจะมีความสุขด้วย"
ในวันเปิดตัวแนะนำ สถาบันโคกุมาไค ประเทศไทย คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ต่างพาเจ้าตัวน้อยมาเข้าร่วมกิจกรรมสรรค์สร้างพลังความคิด ผ่านการเล่นสนุกสนานพร้อมเพลิดเพลินกับการเรียนรู้กับคุณครู ยาสุโยชิ คุโนะที่ได้นำสื่อการเรียนรู้มากมายมาให้เด็กๆ ได้หยิบได้จับทำความเข้าใจ รวมไปถึงวิธีการพูดกับเด็กเพื่อให้เด็กได้ใช้สมองฝึกคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง วิธีการนี้จึงไม่เพียงเสริมสร้างให้เด็กได้พัฒนาความคิดเท่านั้น หากยังเสริมสร้างความสนุกในการเรียนรู้และความภูมิใจที่เด็กๆ สามารถหาคำตอบได้ด้วยตนเองอีกด้วย
เพื่อเจ้าตัวน้อยเติบกล้าอย่างมีคุณภาพ ขอเชิญมาร่วมกันเสริมสร้างและเติมเต็มศักยภาพด้วย 'พลังความคิด' กันได้แล้ว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ณ ชั้น 9 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร.099 5361454