กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--
ตี๋-เอเอฟ สวมบทพระเอกนักบิดในชีวิตจริง โดดร่วมแสดงพลังกับ"กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ" แจงความเดือดร้อน- วอนทบทวน พรบ.จราจร ปี 2522
ด้าน หนุ่มตี๋ เอเอฟ หรือ วิวิศน์ บวรกีรติขจร ล่าสุดก็สวมบทพระเอกนักบิดมาดเข้มในชีวิตจริง โดยเข้ามาร่วมแจมกับกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อที่ลานหน้าที่ว่าการกรุงเทพมหานครวันก่อน เพื่อร่วมเรียกร้องให้ทบทวนและแก้ไข พรบ. จราจร ปี 2522 ให้มีความเท่าเทียมกันบนท้องถนน เนื่องจากมีผลกระทบในวงกว้างที่ไม่ใช่แค่แต่คนในวงการบันเทิงเท่านั้น แต่หมายรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ใช้มอเตอร์ไซด์เป็นยานพาหนะคู่ใจในเวลาเร่งด่วน และไปทำงานในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน พร้อมเปิดใจว่า "จริงๆ ผมเองก็เป็นคนที่ใช้มอเตอร์ไซค์ในการไปทำงานค่อนข้างเยอะ จริงๆ มีทั้งรถและก็มีทั้งมอเตอร์ไซค์นะครับ แต่ว่าช่วงหลังๆ จะใช้มอเตอร์ไซค์เยอะกว่า อย่างเช่น ขี่ไปถ่ายละคร หรือขี่ไปร้องเพลง ไปออกอีเว้นท์ ก็ใช้มอเตอร์ไซค์ตลอด เพราะว่ามันค่อนข้างจะสะดวก ไม่ต้องมารอรถติดเป็นชั่วโมงๆ ครับผม บางคนอาจจะมีบอกว่ารถจักรยานยนต์เป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัดหรืออุบัติเหตุ ผมว่าคือจริงๆ มันไม่ใช่แค่มอเตอร์ไซค์นะครับ ทั้งรถยนต์ด้วย รถชนกันก็เยอะแยะนะครับจริงๆ ผมไม่อยากให้ไปเหมารวม ที่สำคัญอยากจะให้ไปเช็คดูว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนสะพานมันมีแค่ไหนเพราะว่ามันน้อยมากเลยนะครับ
ในส่วนของการของการออกมาร่วมแสดงพลังของผมกับกลุ่มปลดแอกชาวสองล้อนี่เป็นครั้งที่สองแล้วครับ ครั้งนี้เห็นเขาบอกว่าจะยื่นใช้กฎหมายนี้เป็นการถาวรแล้วก็เลยต้องมา เพราะว่าถ้าเกิดกฎหมายนี้บังคับใช้แล้วจะลำบากมากๆ นะครับ คืออย่างเช่น แมสเซนเจอร์ ง่ายๆ นะครับที่เขาต้องทำงานทุกวัน และต้องมาคอยโดนจับ โดนอะไรแล้ว รายได้เขาก็น้อยอยู่แล้ว หรืออย่างกรณีน้องผม ขึ้นสะพานไม่ได้ก็ไปลงแพ พอข้ามแพกำลังจะขึ้นท่าแพ มันลื่นล้มป้ายทะเบียนหัก พอขึ้นปั๊บได้ประมาณสักเมตรสองเมตร ตำรวจดักจับเลย เขาก็เห็นอยู่ว่าน้องเขาขับขึ้นจากแพเพราะแพมันลื่นแล้วล้มทะเบียนหัก ปรับ 1,000 ครับ ในยูคลิปมีครับ และตัวผมเองก็เคยโดนเรียกเหมือนกันครับ
อย่างบางทีแค่สะพานข้ามแยกผมคิดว่ามันไม่ได้มีความอันตรายเลยนะ มันแค่ข้ามแยก และคือส่วนใหญ่คนที่ใช้มอเตอร์ไซค์นี้ หลายคนเขาขับรถมาก่อนนะครับ อย่างเช่นผมเอง เมื่อก่อนก็ขับรถมาก่อน แต่เพราะอะไรที่ต้องมาใช้มอเตอร์ไซค์ เพราะว่าใช้มอเตอร์ไซค์มันมีความสะดวกสบาย แล้วก็มีความรวดเร็วแต่คนที่ใช้มอเตอร์ไซค์นี้ผมอยากจะบอกเลยว่าเขาเสียสละ เขายอมที่จะไม่ขับรถ ยอมมาทนร้อน มาทนแดด ทนฝน ต้องมาโดนฝุ่นควัน อันตรายอีก เพื่อที่จะยอมลดจำนวนของรถยนต์บนท้องถนนให้มันน้อยลงด้วยจริงๆ แล้วควรจะสนับสนุนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยซ้ำ แต่ว่าอันนี้ก็เข้าใจว่าคนขี่มอเตอร์ไซค์ก็มีทั้งที่ขี่ตามมารยาท และขี่ที่ไม่ดี จริงๆ มันก็คละกันหมดครับ คนที่ขับรถก็ไม่ดีเหมือนกัน ก็มี!! เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วอยากจะให้มองแบบภาพรวมมากว่า พยายามอย่าไปห้ามเรื่องขึ้นสะพานเลยผมว่ามันไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดขนาดนั้น ผมเองผมก็ใช้รถใช้ถนนเหมือนกันครับผม และคนที่เขาขี่ดีๆ มีมารยาทก็เยอะแยะ แต่ว่าคนที่เขาผิดกฎหมายจริงๆ ก็จับสิครับก็เรียกแล้วก็จับ คุยตามเหตุตามผล คือพวกเรารับฟังอยู่แล้วแต่ถ้าอะไรที่มันคิดว่าไม่มีเหตุผลเราก็ต้องออกมาแสดงตัว แสดงพลังครับ ยังไงผมก็ขอเป็นอีกหนึ่งตัวแทนของเพื่อนๆ ที่ขอออกมาแสดงพลัง และวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาทบทวนมาตราการตั้งจุดตรวจเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นธรรม และแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้พวกเราเพื่อความเท่าเทียมกันบนท้องถนนด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับผม"