กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--ซีพี ออลล์
ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ตอกย้ำนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี พาเจาะลึกธุรกิจเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ "ริมสวน" เผยกลยุทธ์จากพนักงานกินเงินเดือนสู่เจ้าของธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ถึง 60 ล้านบาทต่อปี สร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกร ด้วยการรับซื้อพืชพื้นบ้านเป็นวัตถุดิบผลิตเครื่องดื่ม พร้อมเดินหน้าผลิตเครื่องดื่มส่งเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 30,000 ขวดต่อวัน
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอี ที่สามารถผลิตสินค้าได้คุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านสาขาร้านเซเว่นฯ
ที่มีอยู่กว่า 9,000 สาขาทั่วประเทศ และบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด ที่มีช่องทางการจำหน่ายผ่านนิตยสาร 24Catalog ร้านสาขา ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช้อปปิ้งสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นประมาณกว่า 20,000 รายการ และมีการเพิ่มปริมาณสินค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทฯ ได้พาเจาะลึกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม "ริมสวน" ของบริษัท มหาทรัพย์ โปรดักส์ชั่น จำกัด อ.บางเลน จ.นครปฐม แหล่งผลิตเครื่องดื่มพาสเจอร์ไรส์ แบบขวดพร้อมดื่ม ที่ส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
น.ส.มะลิวรรณ อำพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาทรัพย์ โปรดักส์ชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ "ริมสวน" เล่าถึงความเป็นมาในการทำธุรกิจว่า สำเร็จการศึกษาด้าน Food Science จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หลังจากเรียนจบเริ่มทำงานในบริษัทเกี่ยวกับอาหาร ต่อมาต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง จึงลงทุนด้วยเงินหลักหมื่นในปี 2547 โดยเริ่มจากการซื้อกิจการผลิตเครื่องดื่มเล็กๆ จากของเจ้าของเดิมและนำมาบริหารการจัดการเอง เน้นการผลิตสินค้าเพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค และปรับปรุงคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับรองมาตรฐาน GMP, HACCP เพื่อยกระดับจากสินค้าโอทอปสู่ร้านสะดวกซื้อ และยึดหลักปรัชญาในการดำเนินงานที่ว่า "สิ่งที่เราทำ ครอบครัวของเราเป็นผู้บริโภค ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผลิตภัณฑ์คือคุณภาพและความปลอดภัย"
เจ้าของแบรนด์ "ริมสวน" เล่าต่อไปว่า จากที่ได้เริ่มทดลองตลาดและได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า จึงมองหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ โดยส่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะเห็นว่าเซเว่นฯ เป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ สามารถกระจายสินค้าไปถึงผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ ในปี 2548 ได้นำน้ำเฉาก๊วยไปวางจำหน่ายครั้งแรกในร้านเซเว่นฯ เขตภาคตะวันออก ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมาก ต่อมาจึงส่งเครื่องดื่มน้ำใบเตยลูกชิด น้ำตาลสดผสมวุ้นมะพร้าว และเฉาก๊วยนมสด มาจำหน่ายทั่วประเทศ ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ "น้ำตาลสดผสมลูกตาล" มารองรับความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 30,000 ขวดต่อวัน โดยปี 2558 มียอดขาย 60 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 5% ในอนาคตวางแผนจะพัฒนาการยืดอายุของสินค้าให้นานยิ่งขึ้น จะทำให้การจัดส่งเครื่องดื่มไปขายได้จำนวนมากขึ้น และเตรียมการส่งสินค้าออกไปขายในกลุ่มประเทศเออีซีด้วย
"เจ้าหน้าที่ทีมงานเซเว่น อีเลฟเว่นได้เข้ามาช่วยสนับสนุนและให้คำปรึกษาตลอดเวลาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และพัฒนาสินค้าเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด รวมถึงให้คำแนะนำการพัฒนาสูตรเพื่อผลิตสินค้าใหม่ให้มีความแตกต่างจากสินค้าอื่นๆ เพราะผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลาย นอกจากนี้ เซเว่นฯ ยังได้อบรมในเรื่องของ GMP และ HACCP เพื่อให้สินค้าของเรามีคุณภาพและมีมาตรฐานเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น"น.ส.มะลิวรรณ บอก
น.ส.มะลิวรรณ บอกทิ้งท้ายว่า วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตสินค้านั้น รับซื้อมาจากเกษตรกร อาทิ ใบเตย ลูกตาล เป็นต้น ซึ่งผลผลิตจากเกษตรกรจะไม่มีการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยทุกๆปีจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องการใช้สารเคมีเพื่อควบคุมมาตรฐาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีแหล่งรับซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่สนใจนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายที่เซเว่น อีเลฟเว่น สามารถติดต่อบริษัทได้หลายช่องทาง อาทิ เว็บไซต์ www.cpall.co.th หรือ www.7eleven.co.th และติดต่อผ่านทางสำนักจัดซื้อของเซเว่นฯ
เบอร์โทรศัพท์ 0-2677-9000 นอกจากนี้ บริษัท 24 Shopping จำกัด ในกลุ่ม ซีพี ออลล์ ยังได้ทำการตลาดผ่านทเวนตี้โฟร์แคตตาล็อก ซึ่งเป็นระบบเมลล์แคตตาล็อกที่ทันสมัย และผ่านช่องทางร้านสาขา รวมไปถึงเว็บไซต์ www.24catalog.com, www.Shopat7.com และให้บริการลูกค้าผ่าน Call Center 0-2711-7666 ตลอด 24 ชั่วโมง