กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
จากผลการสำรวจภาวะโภชนาการและสุขภาพเด็กในภูมิภาคอาเซียน (SEANUTS) พบว่า 1 ใน 6 ของเด็กไทยมีแนวโน้มการเป็นโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้น จำนวน 3 ใน 5 คน ดื่มนมน้อยกว่า 1 แก้ว ต่อวัน และเมื่อผนวกกับการออกกำลังกายที่น้อยแล้วนั้น เด็กกลุ่มนี้จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าปกติถึง 2 เท่า
ในยุคสังคม 4 G ที่มีการใช้สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงความสนใจจากเยาวชนให้ห่างไกลจากการทำกิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์ หากไม่ได้รับการจัดสรรเวลาที่ดีเพียงพอ
เช้าตรู่ของวันหยุด ณ ย่านใจกลางเมือง ยังมีกลุ่มเยาวชนกว่า 2,000 คน ใช้เวลาว่างเข้าร่วมแคมป์กีฬาบาสเก็ตบอล โอเพ่น คลินิก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ ปีที่ 3 เพื่อเรียนรู้การทักษะในเล่นกีฬาบาสเก็ตบอล โดยผู้ปกครองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาไม่รู้สึกห่วงเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียของลูกๆ เลย เพราะในขณะนี้ พวกเด็กๆ มีโอกาสทำในสิ่งที่พวกเขาสนใจกว่า
โครงการ จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นปีที่ 3 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง เอ็นบีเอ ลีคบาสเก็ตบอลชื่อดังของสหรัฐอเมริกาและโฟร์โมสต์ แบรนด์ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย ภายใต้บริษัท รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า เป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกีฬาบาสเกตบอลและไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟในหมู่เยาวชน และถ่ายทอดทักษะบาสเก็ตบอลและค่านิยมหลักของจูเนียร์ เอ็นบีเอ ทั้งเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬา (sportsmanship) การทำงานเป็นทีม (teamwork) ความทัศนคติเชิงบวก (positive attitude) และการเคารพซึ่งกันและกัน (respect) หรือ S.T.A.R
คุณพิมจันทร์ วิมุกตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ.ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "โฟร์โมสต์" กล่าวว่า "เราเชื่อในพลังของการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐบาล โรงเรียน และจูเนียร์ เอ็นบีเอ เพื่อส่งเสริมไลฟสไตล์และโภชนาการเพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยมีสุขภาพที่ดี จากความสำเร็จของโครงการ จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ ในทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้เราจึงขยายแคมเปญ Drink.Move.BeStrong (ดื่ม ขยับ รับสุขภาพดี) ไปสู่เยาวชนไทยทั่วประเทศกว่า 19,000 คน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของนม พร้อมย้ำถึงความสำคัญของโภชนาการที่ดีและไลฟสไตล์แบบสุขภาพดีในหมู่เยาวชนไทย"
ฟรานเซสโซ ซัวเรส รองประธานเอ็นบีเอภูมิภาคเอเชีย ฝ่ายพันธมิตรด้านการตลาดระดับนานาชาติ กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่โครงการจูเนียร์ เอ็นบีเอ ได้กลับมาอีกครั้ง เรามุ่งมั่นจะสร้างประโยชน์ให้กับเยาวชน ผู้ปกครอง และครูผู้ฝึกสอนในประเทศไทย จากการร่วมมือกับโฟร์โมสต์ในครั้งนี้ เป็นโอกาสในการแบ่งปันกิจกรรมในแบบสนุกสนานและปลอดภัย เพื่อให้เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรม พร้อมกับสอนให้เด็กๆ เข้าใจถึงคุณค่าของการเล่นกีฬาและประโยชน์ของโภชนาการที่ดี ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 5-17 ปี ควรออกกำลังกายแบบปานกลางจนถึงเข้มข้นอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงเพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกายและรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม"
จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ ปีที่ 3 ประเดิมเปิดโครงการด้วยโอเพ่น คลินิค ที่เปิดรับเยาวชนอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ร่วมเข้าแคมป์เล่นกีฬาบาสเก็ตบอลในแบบเอ็นบีเอ ณ โรงเรียนนานาชาติ นิสท์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ปกครองและเยาวชนกว่า...คน
เด็กหญิงพรหมภัสสร ลีธนาอนันต์ หรือน้องนนนี่ อายุ 13 ปี โรงเรียนอัสสัมชันธนบุรี ขณะนี้เป็นนักกีฬาโรงเรียนในเครือให้สัมภาษณ์ว่า "เริ่มเล่นบาสเก็ตบอลตั้งแต่ชั้นประถม 4 และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเล่นกีฬาทั้งตอนเลิกเรียนและวันหยุด เวลาว่างหนูชอบอ่านหนังสือ บางครั้งนั่งคุยหรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆทั้งกลุ่มเล่นบาสหรือเพื่อนที่โรงเรียน หนูไม่ค่อยติดโซเชียลมีเดียเพราะไม่รู้สึกว่าสนุกและหนูคิดว่ามีกิจกรรมอย่างอื่นที่สำคัญกว่าให้ทำค่ะ "
คุณพ่อน้องนนนี่ ภิสิษฐ์ ลีธนาอนันต์ กล่าวถึงที่มาของแนวคิดและวินัยของน้องว่า "นนนี่เล่นบาสเก็ตบอลก่อนชั้นประถม 4 เนื่องจากเขามีรูปร่างที่สูง ได้เข้าอบรมบาสเก็ตบอลของค่ายไฮเทคตามพี่ชาย ก่อนที่น้องจะสนใจบาสเก็ตบอล ผมสนับสนุนให้เขาและพี่ชายทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ชอบที่สุด การที่ลูกมีแนวคิดที่ดีและมีวินัยส่วนหนึ่งมาจากผู้ปกครองที่ต้องให้เวลาในการลูกฝัง โยนหินถามทาง ให้ลูกได้ค้นหาตัวเอง เราปลูกฝังให้ลูกๆ ชอบการเล่นกีฬา ทั้ง เทนนิส แบตมินตัน บาสเก็ตบอล น้องจึงไม่ค่อยติดโซเชียลมีเดีย แต่จะชอบอ่านการ์ตูนมากกว่า"
ส่วนอัครพล หงษ์ทอง หรือแม๊กซ์ อายุ 15 ปี โรงเรียนสายปัญญารังสิต เล่าว่า "ผมหลงรักบาสเก็ตบอลในวันแรกที่เล่นบาสกับเพื่อน และเริ่มเรียนอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น การเข้าร่วมแคมป์จูเนียร์เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ ครั้งนี้ สอนให้ผมได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานจากผู้ฝึกสอนเอ็นบีเอเรื่องการชู้ต เลย์อัพ ฟุตเวิร์ค นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้การเล่นเป็นทีม ได้เพื่อนใหม่ที่รักบาสเก็ตบอลเหมือนกันครับ แต่ละวันผมจะใช้เวลาเรื่องเรียนให้เสร็จก่อน เช่น ทำการบ้าน อ่านหนังสือ จากนั้นซ้อมบาสทุกวัน วันละ 3-5ชั่วโมง วันหยุดจะเล่นเกมบ้าง 1-2 ชั่วโมง ส่วนโซเชียลมีเดียไว้ดูข่าวสารและคุยกับเพื่อนนิดหน่อยครับ"
น้องแม๊กซ์ เติบโตในครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อสันติ หงษ์ทอง อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอล เรียนจบสายพละศึกษา แบ่งปันการปลูกฝังความรักในกีฬาว่า "ผมปลูกฝังให้ลูกๆ รักการออกกำลังกายโดยให้วิดพื้นและซิตอัพทุกเย็น วันละ 10 ครั้ง ตั้งแต่ ป.3 จนทุกวันนี้ทำได้ 350 ครั้ง ต่อวัน ทุกวันนี้แม๊กซ์เห็นข้อดีของการออกกำลังกายเพราะร่างกายแข็งแรงและไม่ป่วยเหมือนเพื่อนๆ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เล่นกีฬา ว่ายน้ำ มีการแบ่งเวลาอย่างชัดเจน ให้เวลาลูกเล่นเกมตามประสาบ้าง แต่เขาจะติดการเล่นกีฬามากกว่า ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกทั้งในเรื่องการแบ่งเวลาและการใช้โซเชียลมีเดีย"
จูเนียร์ เอ็นบีเอ โดยโฟร์โมสต์ ปีที่ 3 เปิดรับเยาวชนที่มีอายุระหว่าง10-14 ปี เข้าร่วมโครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถสมัครเข้าร่วมแคมป์เพื่อฝึกฝนการเล่นกีฬาบาสเก็ตบอล ในวันที่ 9-10กรกฎาคม 2559 ณ โรงเรียนนานาชาติ นิสท์ เพื่อคัดเลือกให้เหลือเด็กชาย 40 คนและเด็กหญิง 24 คน ให้ผ่านเข้าร่วมแคมป์ฝึกอบรมระดับประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นต่อไป ในวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2559 โดยเยาวชนกลุ่มนี้จะได้ร่วมเรียนรู้ประสบการณ์การเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลจากนักเล่นมืออาชีพในลีคเอ็นบีเอจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 วันสุดท้ายของแคมป์ฝึกอบรมระดับประเทศ จะจัดขึ้นที่ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จะเป็นการคัดเลือกนักกีฬาชาย 10 คน และ หญิง 5 คน ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่น เพื่อเข้าร่วมทีมจูเนียร์ เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ ออลสตาร์ 2016 เพื่อเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษของเอ็นบีเอในต่างประเทศพร้อมกับเพื่อนๆ จูเนียร์ เอ็นบีเอ ออลสตาร์ จากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปลายปี 2559
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้แล้วทาง www.jrnba.asia/thailand ติดตามกิจกรรมได้ที่www.facebook.com/jrnbathailand และดูข้อมูลต่างๆของ NBA ที่ www.nba.com หรือ เพิ่มเพื่อน @nba_global ผ่านทาง NBA's official account ทาง LINE