กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
เรดดี้แพลนเน็ต (www.readyplanet.com) ผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปรายแรกในประเทศไทย และผู้ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร เผยวิธีการทำการตลาดสำหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน ด้วยการตลาดออนไลน์รูปแบบใหม่ Local Advertising ขานรับ นโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเอสเอ็มอีให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการใช้นวัตกรรมมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้มีศักยภาพ และขยายฐานลูกค้า
นายบุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด กล่าวว่า เรดดี้แพลนเน็ต ในฐานะผู้นำการตลาดดิจิทัลแบบเน้นผลลัพธ์ที่ทำธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 16 ปี เล็งเห็นความสำคัญของโมเดลประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ซึ่งเอสเอ็มอีถือเป็นผู้เล่นสำหรับในการขับเคลื่อนครั้งนี้ เราจึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการมองหาวิธีสร้างตัวตนในทุกๆ ช่องทางที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึง ด้วยการทำ Omni Channel Marketing หรือการทำการตลาดโดยผสานช่องทางทั้งหมดของธุรกิจเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี และต่อเนื่องให้แก่ผู้บริโภคผ่านทุกช่องทางการขายที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น ผ่านสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และผ่านหน้าร้านค้าจริง
"เรดดี้แพลนเน็ตจึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการก้าวขึ้นสู่การเป็น Smart Entrepreneur ใช้เทคโนโลยี Location Based เพื่อขยายฐานลูกค้า เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำงานเมื่อลูกค้าเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงกับร้านค้าของคุณ ระบบก็ทำการส่งโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ตรงใจลูกค้าเข้ามายังสื่อออนไลน์ที่พวกเขาใช้อยู่เป็นประจำ ให้ลูกค้าสามารถใช้โปรโมชั่นที่ร้านค้าได้ทันที การทำเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นความประทับใจของลูกค้าต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดี"
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีหน้าร้านค้า มีที่ตั้งของธุรกิจชัดเจน การทำตลาดโดยใช้เครื่องมือLocal Advertising สามารถทำได้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำดังต่อไปนี้
1) ฟังก์ชั่น Local Awareness บน Facebook(เฟซบุ๊ค) และ Instagram(อินสตาแกรม) เป็นฟังก์ชั่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการ ให้สามารถเลือกได้ว่า จะส่งข่าวสารทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใด ที่อยู่ใกล้กับบริเวณร้านค้า ผ่านโฆษณาบนเฟซบุ๊ค เพื่อจูงใจให้กลุ่มเป้าหมาย ที่สนใจสินค้าหรือบริการของท่าน และอาศัยอยู่ในละแวกนั้นพอดี ตัดสินใจแวะเวียนเข้ามา เพื่อเลือกชม และซื้อสินค้าของท่านได้ ซึ่งการโฆษณาในลักษณะนี้ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มักจะใช้สมาร์ทโฟน เพื่ออัพเดทข่าวสารต่างๆบนเฟซบุ๊ค
และนอกจากฟังก์ชั่น Local Awareness ในโฆษณา Facebook จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่าย จากการใช้สื่อดั้งเดิมที่วัดผลได้ยากกว่า เพราะโฆษณา Facebook จะคิดค่าใช้จ่าย ตามจำนวนการคลิก และการมองเห็นที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยให้ท่านวัดผลการทำโฆษณาได้อย่างแม่นยำ และกำหนดงบประมาณที่จะใช้ได้อย่างคุ้มค่า ตลอดแคมเปญ (การทำการสื่อสารทางการตลาด)
2) ฟังก์ชั่น Google My Business เหมาะกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ที่มีหน้าร้านหรือมีทำเลที่ตั้งอยู่จริง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม เกสท์เฮ้าส์ ร้านค้าปลีก ร้านเสริมสวย ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์แสดงผลในอันดับที่ดีขึ้นบนหน้า Google Search ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ผู้ประกอบการต้องทำการยืนยันกับกูเกิล ว่าธุรกิจของท่านมีทำเลที่ตั้งอยู่จริง ด้วยการเข้าไปปักหมุดข้อมูลธุรกิจลงในแผนที่ Google เมื่อลูกค้าทำการค้นหาร้านค้าของด้วยคีย์เวิร์ด ก็จะพบกับแผนที่ร้านค้า พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดของธุรกิจคุณ
3) ฟังก์ชั่น Baidu Map ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นแผนที่บนมือถือ ที่คิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท "Baidu"เสิร์ชเอ็นจิ้นที่ใหญ่ที่สุดของจีน เนื้อหาบนแอพแสดงผลเป็นภาษาจีนทั้งหมดขึ้นมา ซึ่งผู้ประกอบการ ที่มีหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้า หรือบริการในแต่ละพื้นที่ ก็สามารถใช้แผนที่ Baidu เป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อนักท่องเที่ยวจีนใช้แผนที่ Baidu ค้นหาธุรกิจในเมืองไทย แผนที่จะแสดงผลธุรกิจของคุณขึ้นมา โดยสามารถลิงก์เข้าสู่แลนดิ้งเพจที่ระบุข้อมูลของธุรกิจไว้ พร้อมแผนที่ที่ระบุเส้นทางในการเดินทางมายังหน้าร้าน หรือสถานที่ดำเนินกิจการ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาส ที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนได้ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับธุรกิจคู่แข่ง โน้นน้าวใจลูกค้าชาวจีนให้มาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ