กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (5 ก.ค. 43) เวลา 11.00 น. นายประเสริฐ สมะลาภา ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการสะพานพระราม 8 และเปิดการใช้ท่าเทียบเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสุดซอยสามเสน 5 (ข้างวัดสามพระยา) ที่ก่อสร้างทดแทนท่าเรือท่าเกษม (ท่าน้ำใกล้ธนาคารแห่งประเทศไทย) เขตพระนคร และเป็นผลพลอยได้จากการก่อสร้างโครงการสะพานพระราม 8 โดยปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการตรวจฯ ว่า ท่าเทียบเรือแห่งนี้นับว่ามีการออกแบบได้ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมา ซึ่งกทม. จะใช้เป็นมาตรฐานในการก่อสร้างท่าเทียบเรือของกทม. และกรมเจ้าท่า แห่งต่อไป กล่าวคือ ได้มีการออกแบบท่าเรือเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นโป๊ะ และส่วนที่เป็นศาลาที่พักโดยสารทรงไทย (ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ) สำหรับส่วนที่เป็นโป๊ะนั้นมีความมั่นคง ปลอดภัย โดยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 150 ตร.ม. (11x16 ม.) รับน้ำหนักผู้โดยสารได้ 150 คน สะพานข้ามขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 15 เมตร ทั้งนี้จะได้ก่อสร้างท่าเทียบเรือในลักษณะดังกล่าวทางฝั่งธนบุรีอีกด้วย
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า โครงการก่อสร้างสะพานพระราม 8 เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ และนับเป็นความภาคภูมิใจของกรุงเทพมหานครที่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นิตยสารของต่างประเทศชื่อ ไฮเวย์ออฟเดอะเวิร์ล ได้นำเรื่องโครงการดังกล่าวไปตีพิมพ์และเผยแพร่ พร้อมอธิบายถึงความหมายและความงดงามของสะพานพระราม 8 ด้วย สำหรับสิ่งที่กทม. จะพัฒนาต่อไปคือ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านฝั่งธนบุรีจะจัดทำเป็นสวนสาธารณะติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ รวมทั้งกทม. ได้มีการตกลงกับกระทรวงอุตสาหกรรมว่า เนื้อที่ที่เหลือของโรงงานสุราบางยี่ขัน ประมาณ 25 ไร่ จะจัดทำเป็นอุทยานพิพิธภัณฑ์ โดยกทม. จะนำโครงการพระราชดำริทุกโครงการ และกระทรวงอุตสาหกรรมจะนำโครงการศิลปาชีพไปแสดงให้ประชาชนและชาวต่างประเทศได้ชม
นอกจากนี้ภายในเสารับเคเบิลของสะพานพระราม 8 ด้านฝั่งธนบุรี กทม. จะก่อสร้างลิฟต์เป็น 2 ส่วน รวม 3 ตัว ได้แก่ ส่วนแรกเป็นลิฟต์ 1 ตัว มีเนื้อที่ประมาณ 7x7 เมตร ความเร็วของลิฟต์ 20 เมตร/นาที ใช้สำหรับชมทัศนียภาพบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้สนใจซึ่งเป็นคณะเล็กๆ สามารถขออนุญาตจากกทม. ใช้ได้เป็นครั้งคราว ส่วนที่สองมีลิฟต์ รวม 2 ตัว จะใช้สำหรับซ่อมบำรุงและบรรทุกพนักงานพร้อมที่ว่างสำหรับอุปกรณ์การทำงาน--จบ--
-นศ-