กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายจัดหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกิน และแก้ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ไม่สามารถดำเนินการอย่างได้ผล และเป็นปัญหาที่สะสมมานาน จึงได้สั่งการให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ออกกฎหมายพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ถือครองที่ดินของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอร่างคำสั่ง ให้รองนายกรัฐมนตรีพิจารณาร่างคำสั่ง แล้วเสนอ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อลงนามคำสั่งให้มีผลบังคับใช้กฎหมาย
โดยขณะนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมายประกาศราชกิจานุเบกษา 5 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเนื้อหาขยายบทบัญญัติตามคำสั่งดังกล่าว จะเป็นไปตามบทเฉพาะกาลของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ. ... ที่ได้มีการนำเสนอไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ตัวร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะได้มีการพิจารณาตรวจร่าง เพื่อนำเสนอตราเป็นกฎหมายใช้บังคับต่อไป
ทั้งนี้ จะดำเนินการกับพื้นที่ใน 3 กรณี คือ 1. พื้นที่ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป มี 25 จังหวัด จำนวน 422 แปลง เนื้อที่ประมาณ 426,300 ไร่ 2. พื้นที่ที่จัดให้เกษตรกรแล้ว แต่ขายให้กับบุคคลอื่น เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป มี 2 จังหวัด 2 แปลง เนื้อที่รวม 488 ไร่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนครราชสีมา และ 3. พื้นที่ที่มีคำสั่งพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่ เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา จำนวน 5 แปลง เนื้อที่ 5,906 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 กรณีดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ 25 จังหวัด 429 แปลง เนื้อที่รวม 432,765ไร่
สำหรับการดำเนินการตามมาตรา 44 นั้น ได้กำหนดระยะเวลา 129 วัน ซึ่งได้ส่งพื้นที่เป้าหมายที่ดิน ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ให้จังหวัดดำเนินการแล้ว โดยขั้นตอนต่อไป ส.ป.ก. จังหวัด จะปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ/กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/อปท. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน ซึ่งผู้ครอบครองที่ดินสามารถยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมแนบหลักฐานต่อ ส.ป.ก.จังหวัด ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ปิดประกาศ และ ส.ป.ก.จังหวัด จะดำเนินการตรวจสอบภายใน 30 วัน หากไม่แสดงหลักฐาน หรือหลักฐานไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส.ป.ก. จะแจ้งให้ออกจากที่ดิน และหากไม่ออกจากที่ดินที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะดำเนินการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยความมั่นคง เพื่อดำเนินการยึดคืนที่ดินต่อไป
" กระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้ ส.ป.ก. ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งมีแผนที่แนบท้ายโดยแยกเป็นรายจังหวัด รายแปลงอย่างชัดเจน และส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปปิดประกาศทั้ง 25 จังหวัด ตามขั้นตอน โดยจะปิดประกาศภายใน 7 วัน และตรวจสอบหลักฐานภายใน 30 วัน เมื่อตรวจสอบพบว่าหลักฐานถูกต้องตามกฎหมาย ส.ป.ก. จะยุติเรื่อง แต่หากไม่ถูกกฎหมายจะดำเนินการยึดคืนที่ดินตามขั้นตอนต่อไป" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว