กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2559) เวลา 9.00 น. ณ โรงแรมเอส 31 กรุงเทพมหานคร นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานเปิดงาน "ศุลกากรพบภาคธุรกิจต่างประเทศ (Customs–Business Conference)" ซึ่งถือเป็นงานสำคัญครั้งแรกเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎระเบียบ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกรมศุลกากรที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจในประเทศไทยให้กับผู้ประกอบการต่างประเทศได้รับทราบ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากสถานทูต สภาหอการค้าต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ปัจจุบันกรมศุลกากรได้ดำเนินภารกิจด้านการจัดเก็บภาษีอากรจากการนำเข้าและส่งออกสินค้า พร้อมกันนั้นยังมีนโยบายมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกทางการค้า ในการนี้กรมศุลกากรได้ปรับปรุงกฎ ระเบียบศุลกากร รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพการค้าระหว่างประเทศและอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ดีการปรับปรุงกฎ ระเบียบศุลกากรข้างต้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการประกอบการของภาคธุรกิจทั้งในด้านการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบศุลกากร ตลอดจนการวางแผนดำเนินธุรกิจ กรมศุลกากรจึงตระหนักถึงความจำเป็นของภาคธุรกิจโดยเฉพาะนักธุรกิจชาวต่างชาติที่จะต้องทราบการเปลี่ยนแปลง กฎ ระเบียบศุลกากรซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการ จึงได้จัดงาน "ศุลกากรพบภาคธุรกิจต่างประเทศ (Customs–Business Conference)" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์การแก้ไขกฎและระเบียบการนำเข้า–ส่งออก รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆของกรมศุลกากรในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรื่องที่กรมศุลกากรคาดว่าจะพัฒนา/ปรับปรุงในอนาคต อาทิ การตรวจสอบสถานประกอบการ ระยะเวลาการเก็บสินค้าในเขตปลอดอากร/คลังทัณฑ์บน เงินสินบนรางวัล เป็นต้น ให้ผู้ประกอบการต่างประเทศได้รับทราบโดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรมศุลกากรเป็นผู้บรรยายและตอบคำถาม
อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวต่อไปอีกว่า กรมศุลกากรเชื่อมั่นว่า การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการต่างประเทศให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รับทราบความคืบหน้าในการพัฒนางานด้านศุลกากรเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการวางแผนดำเนินธุรกิจ ลดค่าใช้จ่าย/ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอันจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจด้านการค้าระหว่างประเทศให้มั่นคงต่อไป