กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--Worklink PR
ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง ชูกลยุทธ์ผู้นำตลาดอุปกรณ์ดับเพลิงครบวงจร นำเข้า จัดจำหน่าย สินค้ากว่า 9,000 รายการ พร้อมออกแบบติดตั้งระบบ จากทีมผู้เชี่ยวชาญ เตรียมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% รักษายอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบวงจร เครื่องสูบน้ำดับเพลิง วาล์ว อุปกรณ์ประกอบของระบบดับเพลิง ระบบดับเพลิงด้วยก๊าซ ระบบดับเพลิงด้วยโฟม ระบบดับเพลิงห้องครัว ระบบสัญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และการให้บริการออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงและระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่ต่างๆ เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างครบวงจร รวมถึงการให้บริการออกแบบติดตั้งระบบ ในสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารเพื่ออยู่อาศัย สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล ห้องคอมพิวเตอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ ห้องครัว โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ สถานีไฟฟ้าย่อย โรงไฟฟ้า เป็นต้น
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของบริษัทเป็นลูกค้าโครงการก่อสร้างอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องมีการติดตั้งระบบดับเพลิงเพื่อความปลอดภัยตามกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงานตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยลูกค้าของบริษัทมีทั้งลูกค้าทางตรงซึ่งเป็นเจ้าของโครงการก่อสร้าง หรือกลุ่มผู้รับเหมาโครงการที่มีความต้องการใช้สินค้าหรือบริการไปใช้ในงานโครงการนั้นๆ และยังมีผู้จำหน่ายสินค้าภายนอกเกี่ยวกับงานระบบดับเพลิงและระบบวิศวกรรมต่างๆ ที่ซื้อสินค้าจากบริษัทเพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ผู้รับเหมาโครงการหรือผู้ใช้งานโดยตรง
สำหรับรายได้หลักของบริษัทสัดส่วนประมาณ 70% มาจากการขายอุปกรณ์ดับเพลิง และอุปกรณ์ประกอบที่ใช้ในการติดตั้งระบบดับเพลิง โดยบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพและความโดดเด่นในตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้แก่ วาล์ว ถังดับเพลิง อุปกรณ์ตรวจจับควันและความร้อน มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 9,000 รายการ โดยบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไป (General Distributor) 26 ตราสินค้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายเดียว (Exclusive Distributor) ในประเทศไทยจำนวน 10 ตราสินค้า (มีหนังสือยืนยันแบบรายเดียว 1 ราย ส่วน 9 รายเป็นผู้จำหน่ายรายเดียว แต่หนังสือแต่งตั้งเป็นแบบทั่วไป)
รายได้ส่วนที่เหลือมาจากงานให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติและระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ สัดส่วนประมาณ 30% ลักษณะการให้บริการเริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โดยการนำเสนอสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ตามกฏหมายควบคุมอาคาร รวมถึงการทดสอบระบบ การให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงหลังการส่งมอบงาน ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนมีจะขยายสัดส่วนรายได้ของบริการดังกล่าวให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากปัจจุบันมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคาร เรื่องการติดตั้งระบบดับเพลิง และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่เข้มงวด ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน ทำให้อาคารที่ก่อสร้างใหม่ ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงการตรวจสอบอาคารเก่าที่ยังไม่ได้มีการติดตั้ง จึงมีความจำเป็นต้องติดระบบดับเพลิงย้อนหลัง อีกทั้งงานโครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยรัฐบาล โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนต่อขยาย โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟสสอง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเข้ารับงานที่จะส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด
"เรามีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และทีมงานมีประสบการณ์ในด้านการออกแบบและการติดตั้ง ระบบดับเพลิงด้วยสารเคมีชนิดต่างๆ เช่น ก๊าซ, น้ำ, โฟม, ผงเคมี และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อีกทั้งบริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับซัพพลายเออร์บริษัทชั้นนำระดับโลกมายาวนานกว่า 27 ปี บริษัทจึงมีความมั่นใจว่าจะรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม พร้อมสร้างการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง" นายทักษิณ กล่าว
ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ทำให้บริษัทสามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพตั้งแต่เริ่มติดตั้งระบบจนถึงส่งมอบงาน ส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนมาตลอดระยะเวลา 17 ปี และมียอดขายมากเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยติดต่อกันหลายปี โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ซึ่งในปี 59 นี้คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 850 ล้านบาท