กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป
อานตี้ แอนส์ ปรับโฉมครั้งใหญ่ รีเฟรชแบรนด์ (Refresh Brand)ให้ทันสมัยตรงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรุกขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ มั่นใจปี 2560 ยอดขายทะลุ 1,000 ล้าน
อานตี้ แอนส์ ผู้นำตลาดซอฟท์เพรทเซล ของประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) เตรียม Refresh Brand ครั้งใหญ่แบบ 360 องศา โดยปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น จากที่ครองแชมป์ผู้นำ อย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียมาตลอดเกือบ 2 ทศวรรษ ภายใต้แนวคิด "Auntie Up >>> Up Your Feeling"
นางนงนภัส รำเพย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ "อานตี้ แอนส์" ผู้นำตลาดซอฟท์เพรทเซลของประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดขนม และเบเกอรี่ในประเทศไทยว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองที่มีชิวิตเร่งรีบ และต้องการความสะดวกสบายในการรับประทานอาหารว่าง และในภาวะการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้น โดยมูลค่าตลาดเบเกอร์รี่รวมปีที่ผ่านมา (2558) มีมูลค่าราว 8,000 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 9% ต่อปี และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียครอบคลุมอย่างกว้างขวาง ทำให้การเรียนรู้ และ วิธีการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย ทำได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว โดย "อานตี้ แอนส์" เป็นอันดับ 3 ในตลาดเบเกอร์รี่ แต่ในตลาดเพรทเซล อานตี้ แอนส์ ถือส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 100% สำหรับในปี 2559 นี้ "อานตี้ แอนส์" ตั้งเป้ายอดขายเติบโตราว 20%
ภาพรวม "อานตี้ แอนส์" ในช่วงครึ่งปีแรก (2559) มีการเติบโตที่ดีขึ้น จากปีที่ผ่านมา ประมาณ 9 - 10% ในครึ่งปีแรก เป็นผลมาจากแนวโน้มของเศรษฐกิจ และมาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ ซึ่งมีผลดีต่อยอดขายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับแผนงานในปีนี้เราจะเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยวางงบประมาณไว้มากกว่า 10 % จากยอดขาย แบ่งเป็นงบทางการตลาด และการขยายและปรับปรุงสาขา สัดส่วน 40 – 60 เพื่อดำเนินตามกลยุทธ์ที่วางไว้ใน 3 กลยุทธ์หลัก คือ
1. Product Innovation – พัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และตรงใจลูกค้า เพิ่มความหลากหลาย ทั้งเมนูเพรทเซล และเครื่องดื่ม ที่ยังคงเน้นส่วนผสม และวัตถุดิบคุณภาพดี นอกจากนี้ ยังเตรียมส่ง Category ใหม่ เป็นของหวานแนว Fusion เพื่อออกทดลองตลาดเร็วๆนี้ และแยกตาม Segmentation และ Location ที่จะเปิด โดย ร้านเดิมจะเพิ่ม เมนูไอศกรีม ที่เป็นแนว Mix & Match ระหว่างไอศกรีมกับเมนูเพรทเซลเข้าด้วยกัน รวมทั้งมีโปรโมชั่นช่วงแนะนำสินค้าออกใหม่ โดยจะทยอยทดลองตลาดตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป คาดว่าสิ้นปีจะมีประมาณ 30% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ส่วน Location ใหม่ๆ ที่จะเปิดตามโรงพยาบาลเอกชนกว่า 10 สาขา นอกจากจะขายเมนูทั่วไปแล้ว ทางแบรนด์ก็จะเน้นสินค้าในแนวที่ดูแลและห่วงใยสุขภาพมากขึ้นด้วย
2. Service – เพิ่มการบริการที่เป็นมิตร, ส่งมอบความอร่อย และสดใหม่เสมอ
3. Ambiance – ปรับภาพลักษณ์ของร้านให้สดใส และทันสมัย
โดยแผนงานหลักของปีนี้ คือ การปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Refresh Brand) ให้สดใส และทันสมัย สะดวก สบาย ใส่ใจ และรวดเร็วขึ้น ภายใต้ Big Idea "Auntie Up >>> Up Your Feeling" - "วันนี้อานตี้ แอนส์ เข้าใจ และอยากจะให้คุณมากกว่า เพื่อทำให้แฟนที่รักเรา รักเรามากยิ่งขึ้น เพื่อนที่ห่างหายกันไป กลับมาหาเราบ่อยขึ้น และทำความรู้จักกับคนที่ไม่เคยรู้จักให้กลายเป็นเพื่อนของเรา โดยเราจะออกสินค้า โปรโมชั่น ที่ใหม่ หลากหลาย คุ้มค่า ตรงใจทุกกลุ่มมากขึ้น รวมถึงบริการที่เข้าถึงทุกกลุ่มอย่างแท้จริง"
เราจึงมีการปรับกลยุทธ์ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ในแต่ละกลุ่มให้โดนใจมากยิ่งขึ้น ด้วย concept และการเข้าถึง กลุ่มลูกค้าแบบ "เข้าใจ" และ "ใส่ใจ" และ "สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มากกว่าสินค้าและบริการ" โดยแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. Fan - กลุ่มคนที่มีความรู้สึกดี ชื่นชอบและใช้บริการอานตี้ แอนส์เป็นประจำ มีความถี่ในการใช้บริการเดือนละ 3-4 ครั้งหรือมากกว่า มีความเป็น Brand Royalty สูง ชื่นชอบประทับใจในสินค้าและบริการ
2. Friend - กลุ่มคนที่มีเคยใช้บริการอานตี้ แอนส์ แต่ไม่ได้ใช้บริการบ่อย ไม่ได้มีปัญหากับแบรนด์ แต่ไม่มีโอกาสที่เหมาะสม เช่น มีความถี่ในการใช้บริการเดือนละ 1 ครั้งหรือน้อยกว่า ในชีวิตประจำวันอาจใช้บริการร้านอื่นบ่อยกว่า
3. Stranger - กลุ่มคนที่เคยได้ยิน เคยรู้จักอานตี้ แอนส์ แต่ยังไม่มีโอกาสใช้บริการ ไม่ได้มีปัญหากับเราแต่อาจจะยังไม่ได้คิดถึงเรา หรือคนที่เคยใช้บริการนานมาแล้ว อาจจะจำไม่ได้ว่าเคยใช้บริการหรือไม่โดยผ่าน
สำหรับกิจกรรม Hi – Light ของแบรนด์ในปี 59 นี้ คือการสร้าง New Character ที่ชื่อว่า ANNIE และร่วมกัน ค้นหา Presenter แบรนด์ คนใหม่ ของ แบรนด์ ภายใต้ แคมเปญหลัก 2 แคมเปญ คือ
1. ร่วมกับ นิตยสาร CLEO Magazine และ Acting Coach ที่มีชื่อเสียง ในการสร้างนักแสดงและคนดังมากมาย โดยผู้ รับคัดเลือกและ ประกวด จะได้เข้าร่วมทำ Workshop ปรับปรุงบุคลิกภาพและ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงหนังโฆษณาและกิจกรรม อื่นๆ มากมายของแบรนด์
2. กิจกรรม แคมเปญ ออนไลน์ "Unjudeable" แค่ภายนอกจะบอกอะไรได้ เป็นกิจกรรม เพื่อเสริมสร้าง การบริหารเวลา และการจัดการ ชีวิต ของคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบ ของ กลยุทธ์การตลาด ที่ เป็นแนว ของ "Music marketing" เพื่อสอดแทรกไปกับ Lifestyle ของ คนยุคโลกออนไลน์ในปัจจุบัน
สำหรับเป้าหมายการขยายสาขา ในครึ่งปีหลังปี 59 มีแผนการขยายสาขาไปยังต่างหวัด เช่น โคราช ,หัวหิน ,นครศรีธรรมราช และกลุ่ม รพ.เอกชน ต่างๆ โดยปัจจุบัน "อานตี้ แอนส์" มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 134 สาขา แบ่งเป็นพื้นที่ กทม. 70 สาขา และต่างจังหวัด 64 สาขา และจะเปิดสาขาเพิ่มอีกกว่า 15 สาขา ภายในสิ้นปีคาดว่าจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้นราว 149 สาขาทั่วประเทศ
นางนงนภัส กล่าวเพิ่มเติมถึงสภาวะการแข่งขันในตลาดเบเกอรี่ และของว่างว่า มีการเติบโตมาก และแข่งขันกันค่อนข้างสูง และด้วยความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเพรทเซลของเราเอง รวมทั้งการคัดเลือกแต่วัตถุดิบ ที่ดีมีคุณภาพสูง และด้วยการทำงานร่วมกัน ระหว่างฝ่ายสนับสนุนของแบรนด์ในเครือ ซึ่ง อานตี้ แอนส์ต้องถือว่า แข็งแรง และ เป็นเจ้าตลาดเพรทเซล อันดับ 1 แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ถ้าเรายังคง มุ่งมั่น และพัฒนาความพร้อมทุกด้าน เชื่อว่าการแข่งขัน น่าจะมองเป็นโอกาสที่ดีมากกว่า ซึ่งจากกระแสของ Food Truck อร่อยติดล้อ นี้เป็นแทรนด์ค้าปลีกยุคใหม่ที่เป็นลูกผสมไฮบริดระหว่าง "ร้านอาหาร" และ "สตรีทฟู๊ด" ที่ลงทุนไม่สูง อาศัยโซเชียลมีเดียเป็นสื่อโปรโมท ที่เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทางแบรนด์สนใจและคาดว่าสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้อีกช่องทางหนึ่งอีกด้วย
ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม CSR (Corporate Social Responsibility) อานตี้ แอนส์ มีโครงการ ระยะสั้น และระยะยาว โดยกิจกรรม ล่าสุด (เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา) คือ "Sharing the Good Thing" อิ่มกาย อิ่มใจ แบ่งปัน ร่วมกัน ซึ่งเป็นกิจกรรม เชิญชวนลูกค้า และผู้ที่สนใจ ร่วมกิจกรรมพิเศษ อาทิ ร่วมรณรงค์การใช้จักรยานโดยร่วมปั่นจักรยานระยะทาง 5 กม. และจัด workshop ทำบราวนี่กล้วยตาก กับเชฟบุ๊ค - บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต เพื่อไปมอบให้ผู้ไร้ที่พักพิง ที่บ้านอิ่มใจ โดยจะมีกิจกรรมแบบนี้ทุกไตรมาส และ กิจกรรมยิ่งใหญ่ประจำปี "Free Pretzel Day" (ฟรีเพรทเซลเดย์) ในเดือนกรกฎาคม ของทุกปี นอกจากจะจัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าที่มีอุปการะคุณ และรัก อานตี้ แอนส์ มาตลอดแล้ว ยังแบ่งปันความสุขไปยังน้องๆจากบ้านเด็กต่างๆ โดยเชิญน้องๆ ที่ด้อยโอกาสจากบ้านเด็กทั่วประเทศ มาร่วมทานเพรทเซล และเครื่องดื่มฟรีที่สาขา และที่พิเศษยิ่งขึ้น ปีนี้ยังมี Partner ใจดีอย่าง AIS ที่มาร่วมสนับสนุนของรางวัลให้น้องๆ เป็นอุปกรณ์ และเครื่องเขียน ที่เป็นประโยชน์กับน้องๆ อีกด้วย
ส่วนแผนงานในระยะสั้น-ระยะกลาง 2-3 ปีข้างหน้า จากกลยุทธ์ตามที่กล่าวข้างต้น พร้อมทั้งการพัฒนา ใน 3 ด้านหลักๆ รวมทั้งการขยายสาขา และเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้นแล้ว จะทำให้ อานตี้ แอนส์ เติบโต และสามารถแตะยอดขายเกินพันล้านได้ภายในปี 2560 และก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดเบเกอรี่ในประเทศไทยในปี 2561 นางนงนภัส กล่าวเสริมตอนท้าย