The Emperor’s Journey ‘เพนกวิน’ ไม่ใช่ว่าเป็นกันง่ายๆ!

ข่าวทั่วไป Thursday November 10, 2005 15:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
สร้าง 2005
ประเทศ ฝรั่งเศส
ชื่อเดิม La Marche de L’Empereur
ประเภท ดรามา / สารคดี
กำกับ ลุก ฌาคเกต์
ให้เสียง ชาร์ลส์ แบร์แลงก์, โรมาน โบห์แรงเฌร์, ฌูลส์ ซิตรูค์
กำหนดฉาย 29 ธันวาคม (ลิโด)
official site http://wip.warnerbros.com/marchofthepenguins/
Synopsis
จะว่าไป ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ (หรือ The Emperor Penguins) นั้น แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์เพนกวินที่มี ‘ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก’ แต่แท้ที่จริงแล้ว พวกมันกลับเหมือนเป็น ‘สิ่งมีชีวิตที่ต้องสาป’ เนื่องจากการสืบทอดเผ่าพันธุ์ของพวกมันเต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยงและลำบากแสนเข็ญ
ในทุกฤดูหนาวของทุกปี ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ ต้องละทิ้งทะเลซึ่งอุดมไปด้วยอาหาร แล้วจับกลุ่มเดินกระย่องกระแย่งเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร สู่สถานที่เวิ้งว้างว่างเปล่าหนาวเหน็บแห่งหนึ่ง เพียงเพราะว่าที่นั่นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การสืบพันธุ์ของพวกมัน
นอกจากนั้น ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ ยังมีธรรมชาติที่แสนแปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ หลังจากที่ตัวเมียออกไข่แล้ว ก็จะส่งมอบไข่ให้ตัวผู้รับหน้าที่ฟูมฟักเลี้ยงดู ในขณะที่ตัวเมียจะเดินทางกลับทะเลเพื่อหาอาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง และนำกลับมาให้ทารกน้อยซึ่งกำลังจะฟักตัวในอีกไม่ช้า
การส่งมอบไข่ของ ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ ถือเป็นขั้นตอนที่อันตรายยิ่ง เนื่องจากไข่จะต้องได้รับความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา หากพ่อแม่เพนกวินคู่ใดสะเพร่า กะจังหวะรับส่งไม่ดี ปล่อยให้ไข่ตากลมนานเกินไป ไข่ใบนั้นก็จะถูกความหนาวทำให้แตกสลาย ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ลูกน้อยของพวกมันจะต้องตายตั้งแต่ยังไม่เป็นตัวเสียด้วยซ้ำ
หลังการส่งมอบไข่เสร็จสิ้น แม่และพ่อเพนกวินต่างต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน - แม่เพนกวินจะตะลุยฝ่าหิมะเพื่อมุ่งหน้าสู่ทะเล ส่วนพ่อเพนกวินก็ต้อง ‘อยู่นิ่งๆ’ อย่างอดทนโดย ‘ไม่มีอาหาร’ ท่ามกลางพายุหิมะอันแสนโหดร้ายทารุณ เพื่อประคบประหงมไข่ใบเขื่องไว้ภายในอุ้งเท้าทั้งสองข้าง
ราว 60 วันหลังจากนั้น ขณะที่พ่อเพนกวินอ่อนล้าและหิวโหยจนถึงขีดสุดไข่ก็จะฟักตัว และลูกเพนกวินที่เกิดใหม่จะมีอายุอยู่ได้โดยปราศจากอาหารเป็นเวลาเพียง 48 ชั่วโมง ซึ่งนั่นหมายความว่า หากแม่เพนกวินของมันไม่สามารถนำอาหารกลับจากทะเลได้ทันเวลา อายุขัยของลูกเพนกวินก็จะสิ้นสุดลงเพียงแค่นั้น
แม่เพนกวินตัวใดที่ทำหน้าที่ได้สำเร็จทันเวลา จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับสามีและลูกอีกครั้ง
ส่วนแม่เพนกวินที่กลับมาไม่ทัน จะพบเพียงร่างไร้ชีวิตของลูกน้อย พวกมันจะพากันกลับคืนสู่ทะเลอย่างเศร้าสร้อย แล้วตั้งความหวังว่า เมื่อถึงช่วงเวลานี้ของปีหน้า...มันจะไม่ทำพลาดอีก
Fast Facts
- นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้ชมได้เห็นเพนกวิน ‘พูดได้’!
- The Emperor’s Journey ไม่ได้ใช้เสียงผู้บรรยายบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดในฐานะ ‘บุคคลที่ 3’ เหมือนอย่างที่หนังสารคดีชีวิตสัตว์ปรกติทั่วไปมักจะทำ ทว่าหนังใช้ผู้บรรยายชายและหญิงอย่างละหนึ่ง เป็นตัวแทน ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ ฝ่ายตัวผู้ และ ‘เพนกวินจักรพรรดิ’ ฝ่ายตัวเมีย แล้วให้เพนกวินเล่าเรื่องผ่านสายตาของพวกมันเอง
- ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นเพนกวินเล่าว่า “ในฤดูหนาวของทุกปี พวกเราจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตรไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง...'
“ฉันหิว ฉันเหนื่อยเหลือเกิน อีกไกลไหมกว่าจะถึงทะเล...”
“ฉันกลับมาทันเวลาไหมนี่ ลูกจ๋า ลูกอยู่ที่ไหน”
เป็นต้น
- ฉบับที่เข้าฉายในอเมริกา มี มอร์แกน ฟรีแมน เป็นหนึ่งในทีมพากย์ ส่วนที่จะเข้าฉายในบ้านเราเป็นเวอร์ชัน ‘ต้นฉบับ’ ซึ่งให้เสียงเป็นภาษาฝรั่งเศส
- The Emperor’s Journey ใช้ทุนสร้างราว 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- เมื่อออกฉายในอเมริกา The Emperor’s Journey ติดอันดับ ‘ท็อป 10’ ในบ๊อกซ์ ออฟฟิศ นานถึง 10 สัปดาห์ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนังสารคดีที่ ‘ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์’ เป็นรองก็แต่ Fahrenheit 9/11 ของ ไมเคิล มัวร์ เท่านั้น
- ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นโปรเจกต์ใหญ่ยักษ์ที่ต้องใช้กองทัพทีมงานจำนวนมหาศาล แต่แท้ที่จริงแล้ว The Emperor’s Journey ใช้บุคลากรหลักๆ สำหรับการถ่ายทำในทวีปแอนตาร์คติกาเพียง 4 คนเท่านั้น!
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ