กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--อาซาตซู (ประเทศไทย)
"ไพโอเนียร์" ทุ่มทุนเปิดสายผลิตเครื่องเล่นดีวีดีเป็นรายแรกในประเทศไทย ชูนโยบายผลิตภัณฑ์คุณภาพเกินราคา รักษาตำแหน่งแชมป์พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด
"ไพโอเนียร์" ประกาศเพิ่มสายการผลิตเครื่องเล่นดีวีดีเป็นรายแรกในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมชูนโยบายรักษาคุณภาพมาตรฐานเดียวกันกับที่ผลิตโดยบริษัทแม่ เชื่อมั่นสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้ เนื่องจากราคาที่ปรับลดลงจากการเปิดสายการผลิตในประเทศ
มร. มาซาฮิโร่ คาวามูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในขณะนี้ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นดีวีดีในประเทศไทย มีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายรวมทั้งตลาดประมาณ 13,000 เครื่อง และในปีนี้คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 2 เท่า หรือมียอดขายประมาณ 30,000 เครื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคคนไทยเริ่มหันมานิยมเล่นเครื่องเล่นดีวีดี เพื่อความบันเทิงส่วนตัวภายในบ้านเพิ่มขึ้น
"ทางบริษัทฯ ซึ่งมีนโยบายในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ ผู้บริโภค ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ จึงได้ปรึกษากับบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น และก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่ในการเพิ่มสายการผลิตเครื่องเล่นดีวีดีขึ้นภายในประเทศ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของตลาดในประเทศไทย ในขณะเดียวกันยังเป็นการรองรับการเจริญเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องเล่นดีวีดีที่มีการเจริญเติบโตของตลาดสูงขึ้นอย่างเห็นได้ ชัด" มร. คาวามูระกล่าว
ทางด้าน มร. ทาเคกิ อูเอดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับในส่วนของการผลิตนั้น ทางบริษัทฯ ได้เริ่มทำการทดลองผลิตมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้เข้าสู่กระบวนการผลิตจริงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นมา โดยการปรับเข้าสู่กระบวนการผลิตจริงนี้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้ทุกประการ โดยเฉพาะระบบ ควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้จากบริษัทแม่ทุกประการนั้น บริษัทฯ ได้เน้นให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ผลิตจากโรงงานของ ไพโอเนียร์ไม่ว่าที่ใดในโลก มีมาตรฐานในด้านคุณภาพที่ดีที่สุดไม่แตกต่างกัน
มร. อูเอดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะแรกนี้ บริษัทฯ จะผลิตเฉพาะเครื่องเล่นดีวีดีรุ่น DV - 525 ซึ่งมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมในการใช้งานด้วยระบบดิจิตอลที่โดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งอื่นในตลาด เพราะเป็นนวัตกรรมระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ ให้ภาพคมชัดมีชีวิตชีวาและมีระบบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โดยบริษัทฯ ได้วางแผนกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ในระยะเริ่มต้นไว้ที่ประมาณ 40 เครื่องต่อวัน หรือประมาณเดือนละ 1,000 เครื่อง
ทางด้าน มร.คาวามูระ กล่าวเสริมว่า การเปิดสายการผลิตเครื่องเล่นดีวีดีของไพโอเนียร์ในประเทศในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถปรับราคาลดลงจากราคาเดิมที่ 16,990 บาท เหลือเพียง 13,990 บาท ซึ่งส่งผลดีต่อผู้บริโภคคนไทยโดยตรง ที่มีโอกาสได้เลือกหาสินค้าในราคาที่คุ้มค่าแต่คุณภาพและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมยังคงเหมือนเดิมทุกประการ
" เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ DV-525 จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณในการทำตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นดีวีดีไว้ 30 ล้านบาท ในการจัดทำแผนการโฆษณา ประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถขยายสัดส่วนทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ดีวีดีไพโอเนียร์ทุกรุ่น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 5% เป็นอย่างน้อย และยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นดีวีดีที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดไว้ได้ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีส่วนแบ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ดีวีดีประมาณ 35.5%" มร. คาวามูระ กล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท อาซาตซู (ประเทศไทย) จำกัด
สีนวล ฤกษ์สิรินุกูล
ปาระณี ภู่วิจิตร
นารีรัตน์ โสภณสุขสถิตย์
โทร. 367-5951 ต่อ 230-232--จบ--
-อน-