กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูรรมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่าจากนโยบายที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและควบคุมการประกอบกิจการของคนต่างด้าวในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้มีการเดินหน้าระดมกวาดล้างอย่างเอาจริงเอาจังทุกพื้นที่ ทำให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับธุรกิจนอมินีท่องเที่ยว ทัวร์ศูนย์เหรียญ และมัคคุเทศก์เถื่อนอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวได้ขานรับนโยบายโดยมีกรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงได้มีการประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำในการจดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อให้ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ทำธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต หรือผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวแล้ว แต่ยังประกอบธุรกิจนำเที่ยวผิดประเภท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอนาคต
โดยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวและชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นและตรวจยึด บริษัทในในเครือธุรกิจ บจก.ทรานลี่ ทราเวิล ของนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล จำนวน 4 จุด ดังนี้
1.บริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด เลขที่ 29/42 หมู่ที่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ตรวจค้นตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 102/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.59)
ผลการปฏิบัติ : ตรวจยึดบัญชีรายชื่อมัคคุเทศก์,เอกสารรายการนำเที่ยว,เอกสารงบการเงิน,เอกสารสรุปยอดขาย,เอกสารสรุปรายชื่อพนักงานบริษัท,เอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษี,เอกสาร JOB ORDER (รายการเดินทัวร์) และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 46 รายการ
2.บริษัท ที แอลเบทเทอเวย์ จำกัด เลขที่ 29/40 หมู่ที่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ตรวจค้นตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 101/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559)
ผลการปฏิบัติ : ได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว เป็นรถยนต์บัสบรรทุกผู้โดยสาร ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่ง ปปง. ที่ ย.174/2559 ลงวันที่ 6 ก.ค.2559 จำนวน 86 คัน (จากทั้งหมด117คัน) ส่วนที่เหลือจะดำเนินการตรวจยึดเพิ่มเติมต่อไป
3.บริษัท อินทรี มารีน จำกัด เลขที่ 66/242 หมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ตรวจค้นตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 103/255 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559)
ผลการปฏิบัติ : ตรวจยึดเอกสารเพื่อประกอบการสอบสวน จำนวน 6 รายการ ได้แก่ หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท อินทรี มารีน จำกัด จำนวน 1 ฉบับ,ใบรับงาน จำนวน 1 ชุด,ใบสำคัญการเสียภาษีจำนวน 1 ชุด, ใบเสนอราคาแพ็กเกจทัวร์ จำนวน 2 ฉบับ,ใบอนุญาตผู้ขับขี่เรือ จำนวน 1 ชุด และบัญชีรับจ่ายประจำปี 2559จำนวน 1 ชุด
นอกจากนั้น ได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราวเป็นเรือตามบัญชีแนบท้ายคำสั่ง ปปง. ที่ ย.174/2559 ลงวันที่ 6 ก.ค.2559 จำนวน 32 ลำ (จากทั้งหมด 35 ลำ) ส่วนที่เหลือจะดำเนินการตรวจยึดเพิ่มเติมต่อไป
4.บริษัท ราชา สปา จำกัด เลขที่ 78/457 ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตรวจค้นตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 104/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559
ผลการปฏิบัติ : ตรวจยึดหนังสือจดทะเบียนบริษัท จำนวน 1 ฉบับ,หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย จำนวน 2 แผ่น,เอกสารสั่งจอง จำนวน 1 ชุด และ เครื่องบันทึกข้อมูลกล้องวงจรปิด จำนวน 2 เครื่อง
"วันนี้ได้ย้ำทุกหน่วยงานของกระทรวงท่องเที่ยวว่าต้องออกตรวจจับมัคคุเทศก์เถื่อนและผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเส้นทางการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการที่ต้องสงสัยว่าประกอบธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญและเป็นนอมินี ซึ่งจากการดำเนินการทำให้ได้ตัวผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีข้อมูลบริษัทที่เข้าข่ายและอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานอีกจำนวนหนึ่ง โดยการปฏิบัติการต้องลงลึกให้ถึงอีกหลายบริษัทเครือข่ายธุรกิจนอมินีให้ได้ด้วย" นางกอบกาญจน์ กล่าว
นางกอบกาญจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่านโยบายด้านการปราบปรามและกวาดล้างการกระทำความผิดของธุรกิจนอมินีท่องเที่ยว ทัวร์ศูนย์เหรียญและการจ้างมัคคุเทศก์เถื่อนในประเทศไทยจะต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ มหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล เพราะภาพรวมการท่องเที่ยวไทย คือการชูเสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ วิถีความเป็นคนไทยที่โดดเด่น เป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยที่อบอุ่นและปลอดภัยหากไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเด็ดขาดทุกพื้นที่ ประเทศไทยย่อมสูญเสียรายได้มหาศาลอย่างน่าเสียดาย