กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์
ปลื้มธุรกิจร้านอาหารผลตอบรับดี เล็งขยายสาขาสู่ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ต่อเนื่อง ภายหลังร้านอาหารในเครืออิมแพ็ครวมมากกว่า 20 ร้าน ที่ตั้งอยู่ในและนอกพื้นที่ศูนย์ฯ ได้รับความนิยมจากลูกค้า ล่าสุดกรกฎาคมนี้ เปิดบริการร้านอาหารญี่ปุ่นไทโช-เต ราเมน เพิ่มอีก 2 สาขาที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ บีไฮฟ เมืองทองธานี มอบโปรโมชั่นพิเศษส่วนลด 20% ต้อนรับเปิดร้านใหม่ มั่นใจฐานลูกค้าเพิ่มช่วยดันรายได้เติบโต 13 %
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจร้านอาหารของ อิมแพ็ค มาจากความตั้งใจในช่วงแรกของการเปิดบริการศูนย์ฯ ปี 2542 ซึ่งอยากอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผู้มาจัดงาน มาชมงาน ได้เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายจากร้านอาหารคุณภาพ โดยการบริหารของอิมแพ็คเอง เริ่มต้นกับการเปิดร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงที่รู้จักกันดี นั่นคือ ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน และเพิ่มร้านอาหารประเภทอื่นๆ ตามมา กระทั่งปี 2556 ได้ขยายบริการร้านอาหารไปนอกพื้นที่ศูนย์ฯ เป็นครั้งแรก
ปัจจุบัน อิมแพ็ค มีร้านอาหารในเครือมากถึง 24 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ศูนย์ฯ จำนวน 10 ร้าน และนอกพื้นที่ศูนย์ฯ จำนวน 14 ร้าน โดยเป็นสาขาของร้านอาหารชั้นนำ ได้แก่ ร้านอาหารจีน ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน, ฮ่องกง คาเฟ่, ฮ่องกง สุกี้, ร้านอาหารไทยมโนราห์, ร้านอาหาร บิสโตร เดอ แชมเปญ, เทอราซซ่า, ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ ร้านอาหารเมนูเส้น นู้ดเดิ้ล เนชั่น ร้านอีส คาเฟ่ และร้านอาหารญี่ปุ่น สึโบฮาจิ, อิโต-คาโจ, ไทโช-เต ราเมน ซึ่งแต่ละร้านที่เปิดบริการได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างดี จึงได้ขยายสาขาทั้งในพื้นที่เมืองทองธานี รวมถึงย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพและชานเมืองอย่างต่อเนื่อง
การขยายสาขาของเครือร้านอาหาร อิมแพ็ค ที่ผ่านมาจะมุ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าตามโลเคชั่นที่แตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมของร้านอาหารแต่ละประเภทด้วย เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นสึโบฮาจิ ที่ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป ร้านอาหารฮ่องกง สุกี้ ที่เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล เจาะลูกค้ากลุ่มครอบครัว ร้านฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ ที่เอกมัยและทองหล่อ สำหรับกลุ่มลูกค้ากินดื่มต่างชาติ เป็นต้น ซึ่งการเพิ่มสาขาแต่ละแห่งจะใช้งบลงทุนราว 2.5-3 ล้านบาท ในขนาดพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม อิมแพ็ค ได้เพิ่มสาขาของร้านอาหารญี่ปุ่น ไทโช-เต ราเมน อีก 2 แห่ง คือ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ บีไฮฟ เมืองทองธานี ส่วนในเดือนกันยายนก็เตรียมขยายสาขาของร้านอาหารจีน ฮ่องกง คาเฟ่ ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน อีกเช่นกัน
ด้านนายแฝง รุณใจ ผู้จัดการกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่นในเครืออิมแพ็ค กล่าวเสริมว่า ร้านอาหารญี่ปุ่นไทโช-เต ราเมนนำเสนอเมนูราเมนต้นตำรับจากภูมิภาคต่างๆ ของญี่ปุ่น ตัวร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบโรงละครคาบูกิ เปิดบริการสาขาแรกในเดือนพฤศจิกายน 2556 บริเวณฟู้ด เอเทรี่ยม อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ซึ่งได้รับผลตอบอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าหลัก ผู้จัดงาน ผู้มาชมงานที่อิมแพ็ค ด้วยความหลากหลายของเมนู รสชาติอร่อยแบบต้นตำรับ และราคาที่ไม่แพงเกินไป ทำให้ร้านไทโช-เต ราเมน เป็นที่นิยมของลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น จึงมียอดขายต่อปีเฉลี่ยถึง 10 ล้านบาท
จากความนิยมของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ อิมแพ็ค ตัดสินใจขยายสาขาร้านอาหารญี่ปุ่นไทโช-เต ไปที่ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์พร้อมกันถึง 2 สาขาในเดือนเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับได้รับบริการ ทั้งที่ ชั้น 5 โซนฟู้ดฮอลล์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และชั้น 1 บีไฮฟ เมืองทองธานี (ติดกับธนาคารไทยพาณิชย์) อีกทั้งได้จัดโปรโมชั่นพิเศษฉลองการเปิดร้านใหม่ มอบสิทธิพิเศษกับส่วนลดค่าอาหาร 20% สำหรับลูกค้าตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขยายสาขาของร้านไทโช-เต ราเมน ทั้ง 2 แห่ง จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้มากขึ้นส่งผลให้มีรายได้เติบโตขึ้น 13%