กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--24 คูณ 7
อินเทลโลจิสติคส์ แต่งตัวเข้าตลาดพร้อมทุ่มกว่า 100 ล้านบาท รุกขยายธุรกิจ
• รุกธุรกิจให้บริการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ รองรับแผนเข้าตลาด
• ลูกค้าเริ่มต้น พีทีที โพลีเมอร์โลจิสติกส์ พร้อมขยายให้บริการแก่รายอื่น
• ย้ำให้ความสำคัญการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับแผนการขยายงาน
บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายรายใหญ่ เดินหน้าศึกษาแผนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมแผนการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ขยายธุรกิจให้บริการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ โดยศึกษาแนวทางการให้บริการร่วมกับ พีทีที โพลีเมอร์โลจิสติกส์ เพื่อยกระดับการขนส่งเม็ดพลาสติกเพื่อการส่งออกไปยังต่างประเทศ
นายโยธิน โยธิน ตะหง่านศรีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมศึกษาแนวทางการขยายบริการขนส่งเม็ดพลาสติกในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ 15 ไร่ในจังหวัดระยองเพื่อรองรับแผนขยายงานดังกล่าว โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนในที่ดินประมาณ 90 ล้านบาท และงบพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่มากกว่า 10 ล้านบาท
"ความจริงแล้ว เราให้บริการขนส่งเม็ดพลาสติกให้กับพีทีทีโพลีเมอร์โลจิสติกส์มานานแล้ว เพียงแต่ว่า พีทีทีโพลีเมอร์โลจิสติกส์ มีนโยบายที่จะให้เรายกระดับการให้บริการให้สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของเราที่ต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอยู่ตลอดเวลาเพื่อสอดคล้องกับความต้องการขององค์กรระดับนานาชาติอย่างบริษัทชั้นนำในระดับโลก" นายโยธิน กล่าว
นายโยธิน กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่เพื่อใช้เป็นลานพักตู้คอนเทนเนอร์หรือ Container Yard บนพื้นที่ 15 ไร่ เพื่อเป็นลานพักตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและมาบตาพุด เพื่อส่งออกไปยังประเทศโดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปีนี้
นายโยธิน กล่าวว่าธุรกิจใหม่นี้ ยังคงดำเนินการภายใต้บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด ทั้งนี้เพราะคณะผู้บริหารได้กำหนดแผนการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อรองรับแผนการจดทะเบียนครั้งนี้
"แผนลงทุนทำลานพักตู้คอนเทนเนอร์ เป็นหนึ่งในโครงการระยะยาวที่เรากำลังเร่งจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ เพื่อให้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและเป็นแหล่งรายได้ระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นภายหลังการเป็นบริษัทจดทะเบียน" นายโยธิน กล่าว